อำนาจ จิรเกียรติโชดก หรือ แว่น วงเวียนใหญ่ จากนายธนาคาร สู่เซียนพระเครื่อง สายสมเด็จพระญาณสังวรฯ และพระคณาจารย์ทั่วไป
ก่อนจะมาเล่นพระเครื่องผมทำงานธนาคารไทยพาณิชย์ อยู่ที่สำนักงานใหญ่แถวประตูน้ำ แถวนั้นเมื่อก่อนมีตลาดพระเยอะ อย่างพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ แล้วจริงๆก็ เป็นคนที่สนใจพระเครื่องเป็นทุนเดิมอยู่ด้วย ตอนนั้นก็ค่อยๆ เก็บสะสมเรื่อยมา พอพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำเขาเลิกไปก็ไปเดินตลาดพระที่อื่นบ้าง แล้วก็เริ่มซื้อขายพระบ้างแล้ว เหรียญแรกที่ซื้อเลยก็เป็นเหรียญนาคปรกเจรตำรวจ เจ้าคุณนรฯ เพราะแรกเริ่มที่เล่นพระนั้นผมเล่นเจ้าคุณนรฯ ซึ่งก็พอเล่นเป็นบ้าง ตอนหลังก็หันมาเล่นพระสมเด็จญาณสังวรฯ เพราะรู้จักพระวัดนั้นเขาเป็นลูกศิษย์วัดบวรด้วย
ตอนหลัง ทำงานธนาคารมันก็เครียดๆ ก็ขายพระเป็นงานอดิเรก หารายได้พิเศษ จนถึงจุดๆ หนึ่งเราทำงานธนาคารมานานมันก็เบื่อและอิ่มตัว เรามองเห็นว่าเล่นพระเนี่ยะก็สามารถเป็นอาชีพได้ มีรายได้ แล้วก็มีผู้ใหญ่หลายคนสนับสนุนให้เราเล่น จึงหันมาเล่นพระเป็นอาชีพเต็มตัว ปัจจุบันผมเป็นคณะกรรมการรับและตัดสินพระโต๊ะสมเด็จพระญาณสังวรเป็นหลัก แล้วก็พระคณาจารย์ทั่วไป
เมื่อถามว่าพระที่ชำนาญเลยนั้นคืออะไร คุณแว่น วงเวียนใหญ่ กล่าวยิ้มๆ ว่า พระที่ชำนาญ ก็คือสมเด็จพระญาณสังวร ส่วนเจ้าคุณนรฯ หลวงพ่อแพ และพระคณาจารย์ทั่วไปก็ดูได้อยู่นะ
คุณแว่น วงเวียนใหญ่ เล่าให้ฟังถึงหลักในการศึกษาพระเครื่องของตนเองว่า จะศึกษาพระเครื่องนี่เราจะต้องขวนขวายเอง จากหนังสือ ยิ่งเดี๋ยวนี้ง่ายหน่อยมีอินเตอร์เน็ตก็เปิดดู อันไหนไม่แน่ใจหรือไม่เข้าใจก็สอบถามผู้รู้ คนเรานะเล่นพระไม่มีทางที่ว่าเราจะเก่งเองเสมอไป เราต้องศึกษาหาความรู้อยู่เรื่อยๆ ถึงจะเก่ง ส่วนที่จะมีโดนแท้บ้าง เก๊บ้าง โดนหลอกก็มีเยอะแยะเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจอแบบนี้แรกๆ เสมอ ถ้าเล่นพระสมัยก่อนนะโดนเก๊ หมดเลยนะ เพราะไม่มีอินเตอร์เน็ตไม่มีชี้จุดตำหนิพระให้ดูแบบสมัยนี้ สมัยก่อนเราจะรู้ว่าได้พระเก๊หรือแท้ก็โน่นจากตอนส่งพระเข้าประกวดนั่นล่ะ ถึงรู้ว่าโดนเข้าแล้ว บางทีกรรมการก็จะบอกแล้วชี้ตำหนิเราก็จำแล้วศึกษาเพิ่มเติมอีกที ซึ่งอย่าไปซีเรียส อีกอย่างตั้งแต่เริ่มเล่นพระมาผมยืนยันว่าไม่มีใครไม่โดนเก๊ แต่โดนแล้วเราต้องเอาเป็นครู แล้วก็ต้องจำว่าเฮ้ยโดนแล้วนะ ทีหลังจะได้ระวังและจำไว้
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากจะเล่นหาพระเครื่อง คุณแว่น วงเวียนใหญ่ อธิบายว่า การเล่นพระต้องบอกก่อนเลยว่าเราอยากจะเล่นเพื่ออะไร เพื่อสะสมหรือเก็งกำไร สำคัญที่สุดต้องดูกำลังทรัพย์เราด้วย เราอย่าไปดูว่าพระองค์นี้มันขึ้นราคาแล้วเราก็ตามเขาแล้วไปกู้เงินมาซื้อ กู้เงินมาเล่นมันไม่ได้หรอก และคนเล่นพระนี่ต้องสายป่านยาวด้วย สายป่านยาวคือถ้าเกิดเราโดนราคาแพงเราก็เก็บไว้ได้โดยไม่เดือดร้อน อย่างยกตัวอย่างตอนจตุคามจำได้ไหมสมัยนั้น บางคนเอาบ้านเอารถไปจำนำมาเล่นก็เจ๊ง เพราะฉะนั้นต้องดูกำลังทรัพย์เราเอง ว่าเรามีเงินเท่าไหร่ ก็เล่นไประดับนี้ แบบเดือนนี้เรามีงบเท่านี้ก็เล่นพระใหม่ๆ ไปก่อน ศึกษาพระใหม่ๆ ให้ได้ก่อน พอมีกำลังทรัพย์ขึ้นมาค่อยกระเถิบขึ้นมาเรื่อยๆ ค่อยเก็บค่อยสะสม และศึกษาควบคู่ไป และจำไว้เลยนะเล่นพระอย่าโลภเป็นหลัก ยกตัวอย่างให้ฟังกริ่งหลวงปู่ทิมองค์เป็นแสน มีคนเขามาขายพันสองพันถามว่าเป็นไปได้ไหม เล่นพระเราก็ต้องมีสติด้วยอย่าไปโลภ ของถูกแบบนี้ไม่มีหรอก ยิ่งเดี๋ยวนี้นะมันทันกันหมดแล้วเปิดดูราคาในเน็ตก็ได้ ถ้ามีคนเอามาขายถูกๆ เราก็ต้องเอะใจ พระหลักแสนเขามาขาย 2 พันจะแท้ไหมล่ะเอาจริงๆ จะคิดว่าฟลุ๊คไม่มีหรอกเดี๋ยวนี้มีแต่ฟุ๊บ
คุณแว่น วงเวียนใหญ่ ฝากอีกนิดหนึ่งก่อนจะจบการสัมภาษณ์ว่า “หลักในการเล่นพระอย่าโลภนั่นแหละสำคัญเลยเป็นหลักที่ต้องจำให้ขึ้นใจเลย”
“ถ้าสนใจพระเครื่องสมเด็จพระญาณสังวร ส่วนเจ้าคุณนรฯ หลวงพ่อแพ และพระคณาจารย์ทั่วไปใหม่ๆ เจอกันตามงานประกวดพระก็สามารถทักทายสอบถามได้ หรือโทร 084-0008499 คุยกันได้เท่าที่ความรู้เรามี โดยเฉพาะสายสมเด็จพระญาณสังวร สอบถามกันมาได้เลย” คุณแว่น วงเวียนใหญ่ ทิ้งท้าย