เอส เชียงใหม่ เล่นพระดีมีมาตรฐานเข้าตานายกสมาคมฯ แต่งตั้งเป็นประธานกรรมการบริหารบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดลำพูน
ธีระกาญจน์ วัฒนไชยกิตติ หรือ เอส เชียงใหม่ เดิมเป็นคนเชียงใหม่ ภายหลังจากแต่งงานและมีครอบครัวก็ย้ายมาปักหลักทำธุรกิจที่จังหวัดลำพูนเป็นส่วนใหญ่
เจ้าตัวเล่าให้ฟังย้อนถึงที่มาว่า “ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือพระมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะชอบพุทธศิลป์ พุทธคุณ ก็หาซื้อหนังสือมาเปิดดู เปิดอ่าน ศึกษาพระเครื่อง จนมีจุดหักเหเลยคือ ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเพื่อนเห็นว่าผมสนใจพระเครื่อง จึงเอาพระมาให้ เป็นพระรอด วัดพระสิงห์ ปี 2496 จ.เชียงใหม่ ผมก็เอามาเลี่ยมแขวนขึ้นคอ อาจารย์ก็เห็นแล้วมาขอเช่า ด้วยความที่เรายังเป็นเด็กนักศึกษาก็เลยปล่อยให้อาจารย์ไป จากนั้นก็ลองสะสมและเริ่มซื้อขายพระเล็กๆ น้อยก่อน
หลังจากก้าวแรกเริ่มที่ให้เช่าพระรอดในวันนั้น เอส เชียงใหม่ ก็เริ่มศึกษาพระเครื่องจริงจัง เน้นสายพระจังหวัดลำพูน โดยอาศัยเวลาว่างช่วงบ่ายจากการเรียนมหาวิทยาลัย เข้าสนามพระตลาดทิพเนตร เพื่อไปหาเซียนพระเก่งๆ ในยุคนั้น ให้สอนการดูพระให้
“การจะเรียนรู้พระของยุคนั้นไม่เหมือนตอนนี้นะ” เอส เชียงใหม่เกริ่นนำก่อนจะเล่าให้ฟังต่อไปว่า “วันนั้นผมไปถามว่าพระลำพูนดูเก๊-แท้ยังไง เค้าก็หยิบพระแท้มาให้ดู แล้วบอกเอ้าดูเอา ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขายื่นให้เราส่องดูเลยหรือ? ไม่มีการบอกจุดให้เลย แต่ก็รับมาส่องแบบงงๆ นั่นล่ะ แล้วเซียนท่านนั้นก็ขยายความให้ว่า ส่องแล้วจำไว้นะแบบนี้คือพระแท้ ให้จดจำรายละเอียดไว้”
เอส เชียงใหม่ เล่าไปด้วยรอยยิ้มติดตลกว่า “ผมว่าการเรียนดูพระสมัยนั้น อาศัยครูพักลักจำเป็นหลัก คือเราต้องส่องต้องทำความเข้าใจจากพระแท้ก่อน จะไปหวังให้ท่านชี้จุดให้เลยมันไม่เป็นหรอก พอจดจำเนื้อหา ตำหนิได้แม่นยำ หากสงสัยแล้วถึงค่อยถาม อย่างเช่นเนื้อดินนี่ค่อนข้างจะดูยาก พระดินเก่าพระกรุมันจะต้องแห้งและหนึบนุ่ม ความหมายมันกว้างผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ พอถามเซียนท่านนั้นเขาก็อธิบายขยายความให้เราเปรียบเทียบว่า เนื้อจะต้องเหมือนเนื้อยางลบดินสอ มันจะหนึบนุ่ม เราก็ลองเทียบพระเนื้อดินกับยางลบดินสอมันก็คล้ายๆ กัน ถึงได้เข้าใจ อยากรู้อะไรเราก็ต้องส่องดูก่อนถึงค่อยถามจะทำให้เราจำได้ดี”
“ผมศึกษาพระเครื่องมาเรื่อยๆ มีเงินก็เช่าเก็บๆ ไว้เรื่อยมา จนลองเช่าพระมาปล่อยครั้งแรกตอนนั้นใช้เงินกู้ กยศ. เช่าพระคงลำพูนมาองค์หนึ่ง 2-3 พันบาท ปี 40-41 ยังไม่แพง เช่ามาเสร็จก็ถ่ายรูปลงเว็ปไซต์ สมัยนั้นเว็ปไซต์ยังไม่เยอะ ผมเอาลงขาย 5 พัน ก็มีคนติดต่อเช่าไป ทั้งที่เขายังไม่รู้จักผม แล้วผมก็โนเนมมาก แต่เขาก็โอนเงินมาแล้วผมก็ส่งของ สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ ใช้การติดต่อโทรคุยกันผ่านเบอร์บ้านเอา ผมลงขายในเว็ปไซต์มาพักหนึ่งก็เริ่มมีเครดิต พระที่ลงคนเขาเอาไปเช็คดูเห็นว่าแท้ก็เริ่มมีลูกค้ามากขึ้น โดยนัดดูตามงานประกวดพระ หรือห้างบางลำพู งามวงศ์วานชั้น 8 บ้าง ซื้อ-ขายมาสักระยะก็เริ่มมีคนไว้ใจ ให้เราหาพระให้ แต่พระสภาพสวยสมัยนั้นคือราคาเป็นหมื่น ผมไม่มีทุนขนาดนั้น แต่เขาก็โอนเงินมาให้ก่อนเลยโดยที่ผมยังไม่มีของ ผมก็เลยมีทุนแล้วไปหาพระให้ลูกค้า ก็เลยเริ่มเข้าสู่วงการซื้อขายพระเครื่องอย่างเต็มตัว”
ในส่วนของการเข้ามาสู่ สมาคมฯ นั้น เอส เชียงใหม่ บอกว่า “ช่วงปี 45 ผมออกเดินสายตามงานประกวดพระไปเรื่อยๆ บางวันก็มาตลาดพระที่พันธุ์ทิพย์ จนช่วงปี 46 เฮียสมพงศ์ ศรีราชาลอร์ด ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดชลบุรี เฮียเป็นเพื่อนกับเตี่ยผม เฮียสมพงษ์จะจัดงานประกวด เห็นผมมีความรู้เรื่องพระดีระดับหนึ่ง จึงชักชวนให้มาเป็นคณะกรรมการตัดสินพระ นับได้ว่างานกองข้าวศรีชา เกาะลอย คืองานแรกที่ผมได้เข้ามาเป็นกรรมการจวบจน ท่านนายกสมาคมฯ เล็งเห็นความสามารถ และผมก็ทำธุรกิจอยู่ในจังหวัดลำพูน เป็นที่รู้จักของผู้ใหญ่ในจังหวัดลำพูน ทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ท่านนายกสมาคมฯ จึงไว้วางใจให้เป็นประธานจังหวัดลำพูน”
เมื่อถามถึงพระเครื่องที่ถนัด เอส เชียงใหม่ ตอบอย่างมั่นใจว่า พระดินจังหวัดลำพูน รองลงมาก็เป็นพระเครื่องสายจังหวัดเชียงใหม่ เพราะจังหวัดลำพูนกับเชียงใหม่ห่างกันแค่นิดเดียว พระเครื่องของ 2 จังหวัดผมจึงมีความถนัด
นักเล่นพระท่านใด ที่สนใจพระสายลำพูน หรือเชียงใหม่ เอส เชียงใหม่ อยากจะแนะนำว่า “ควรเล่นพระกับคนที่เขาเป็นสายตรง รู้จริงในพระสายนั้นๆ ถ้าเราจะเช่ามาศึกษา หรือเช่ามาบูชาก็จะต้องให้เขาการันตีให้ มาส่องมาศึกษาสักพักคุณก็จะรู้ว่าแท้-เก๊แตกต่างกันยังไง ซึ่งความคมชัดของพระแท้กับพระเก๊นั้นแตกต่างกันมาก แค่ทำให้คล้ายๆ แต่ยังไงก็ไม่มีทางเหมือน ของมาทีหลังก็ยังไม่เหมือนของเก่า ต่อให้พยายามยังไงเนื้อก็ย่อมไม่เหมือน 100% ส่วนถ้าเราอยากจะเช่าบูชาพระ ผมอยากจะบอกว่าให้เราบูชาพระกับเซียนพระที่เชื่อถือได้ มีความรับผิดชอบ และสามารถการันตีและรับผิดชอบให้เราได้จะดีที่สุด”
สำหรับใครที่อยากมาศึกษาพระจังหวัดลำพูน จากเอส เชียงใหม่ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่ ห้างบิ๊กซี ดอนจั่น จังหวัดเชียงใหม่ และอีกที่ตลาดทิพเนตร จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 081-993-9989
“เมื่อไม่นานมานี้สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดลำพูน จัดงานประกวด และได้มอบเงินตามวัตถุประสงค์เรียบร้อย ตอนนี้ทางสมาคมฯ สาขาลำพูนก็ได้จองวันประกวดพระครั้งใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว ในหน้าหนาวปีหน้า วันที่ 12-13 ธันวาคม 2563 ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไง ผมจะจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง” เอส เชียงใหม่ กล่าวส่งท้าย
— ศิริพร แย้มวงษ์ —
Recommended To You
