พระขุนแผนนะฉัพพรรณรังสี หลวงปู่สมาน ศิษย์เอก หลวงพ่อสุด วัดกาหลง เจ้าตำรับมหายันต์ตะกร้อ อันโด่งดังที่สุดในเมืองไทย
ตำนานสุดยอดพระเครื่องเมืองราชบุรี พระขุนแผนนะฉัพพรรณรังสี
หลวงปู่สมาน สุธมฺโม ที่พักสงฆ์เขายางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
ศิษย์เอก หลวงพ่อสุด วัดกาหลง เจ้าตำรับมหายันต์ตะกร้อ อันโด่งดังที่สุดในเมืองไทย
ได้รับเมตตาจาก ท่านเจ้าคุณ พระภาวนาธรรมาภิรักษ์ วิ. “ หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย” วัดสุทธาวาส วิปัสสนา อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธา
มอบ ผงพรายกุมาร มาผสมเปฌนมวลสาร และ อธิษฐานจิตวาระแรกเป็นกรณีพิเศษ
กล่าวถึง พระขุนแผนนะฉัพพรรณรังสี สิทธิการิยะว่าด้วย นะฉัพพรรณรังสี ในตำราของบรมครู หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ก็มี แต่ท่านเรียกว่า “นะพันนะรังสี หรือ พรรณรังสี” หลวงปู่สมาน สุธมฺโม อายุ ๘๘ ปี ท่านสืบสายวิชาต่อรุ่นสู่รุ่น จาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ถึง หลวงพ่อรุ่ง จากหลวงปู่รุ่ง ถึง หลวงพ่อสุด และ หลวงปู่สมาน ท่านก็เป็นหนึ่งในศิษย์ที่ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ครอบครูให้ และนอกจากนี้ยังศึกษาตำราจากพระเวทฉบับต่างๆที่สืบทอดกันมาจากครูบาอาจารย์อีกหลายต่อหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อรักษ์ วัดน้อยแสงจันทร์ หลวงพ่อมา วัดวังตะเคียน และ อาจารย์รวม หนังแห้ง เป็นต้น
ว่าด้วยตำรับพระเวท “นะฉัพพรรณรังสี” เป็นยอดวิชาเมตตามหานิยมชั้นสูง มหายันต์ ฉัพพรรณรังสี แปลว่า รังสีหรือรัศมี ๖ ประการ (ฉะ แปลว่า ๖, พรรณ แปลว่า สี) โดย รังสี นี้จะมีเฉพาะแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเทวดาในเทวโลก ซึ่งรังสี ของพระพุทธองค์นั้นมีมากกว่าเทวดาทั้งหลายมากนัก ประกอบด้วย
๑. นีละ เขียวเหมือนดอกอัญชัน โดยจะแผ่ออกทางพระเกษา พระมัสสุ และพระเนตรทั้งสอง
๒. ปีตะ เหลืองเหมือนหรดาลทอง โดยจะแผ่ออกทางพระฉวีวรรณ และพระเนตร
๓. โลหิตตะ ขาวเหมือนแผ่นเงิน โดยจะแผ่ออกทางพระมังสะ พระโลหิต และพระเนตรทั้งสอง
๕. มัญเชฏฐะ สีหงสบาทเหมือนดอกเซ่งหรือหงอนไก่ โดยจะแผ่ออกทางพระสรีระ
๖. ปภัสสระ เลื่อมพรายเหมือนแก้วผลึก โดยจะแผ่ออกทางพระสรีระ
ซึ่งแสงฉัพพรรณรังสีนี้จะแผ่ออกพร้อมกัน และเป็นรังสีที่ไม่เกิดเงา หรือความร้อนใดๆ เป็นรังสีที่แสดงถึง พระบารมีของพระพุทธองค์ที่จะมาโปรดเวไนยสัตว์โดยแท้ โดย ฉัพพรรณรังสีที่ มีความสำคัญมากนี้ ครูบาอาจารย์โบราณท่านจึงรจนาเป็นตัวนะที่พิศดารขึ้นเพื่อคุ้มครอง ป้องกันภัยให้กับผู้ที่มีศีล มีสัจจะ มีธรรมะในตน เรียกง่ายว่า เป็นยอดแห่งพุทธคุณที่ครอบคลุมไว้ทุกๆด้าน คนโบราณจึงมักพูดว่า “ บุญรักษา พระคุ้มครอง ” แลอุปเทห์การใช้นะตัวนี้ ก็จะเน้นไปในทางเมตตาบารมี มหาอำนาจ คุ้มครองป้องกันภัย ตามคติของแสงฉัพพรรณรังสีของพระพุทธองค์
พระขุนแผนนะฉัพพรรณรังสี หลวงปู่สมาน พระผู้เฒ่าอาคมขลัง ท่านรวบรวม ผงคลุกมวลสารเอง ตลอดจนถึง เขียนชักยันต์ลงผงมวลสาร และปลุกเสกลงอาคมแล้วลงอีก จนเกิดปิติเป็นที่พอใจ แล้วนำมาจัดสร้างพระเครื่องรุ่นนี้เป็นกรณีพิเศษ มวลสารนั้นประกอบด้วย ผงว่านดอกทอง ผงว่ากาหลง ผงว่านเสน่ห์จันทร์ขาว จันทร์แดง ซึ่งเป็นสุดยอด สายเมตตา มหาเสน่ห์ ด้านเจรจาค้าขายดีนัก และ ว่านพุทธกวัก ว่านนางกวัก ว่านนางคุ้ม ว่านเศรษฐี ว่านมหาลาภ เป็นยอดแห่ง มหาโภคทรัพย์ ด้านเรียกเงิน เรียกทอง มีเงินใช้ตลอดชีวิต และ ว่านมหากำบัง ว่านหนุมาณประสานกาย ว่านทรหด ว่านสบู่เลือด เป็นต้น ล้วนแล้วแต่เป็นยอดแห่ง แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ป้องกันภัยดีนักแล นอกจากนี้ ยังมีผงวิเศษต่างๆที่ได้รับเมตตาจาก พระเกจิอาจารย์ดังทั่วสารทิศที่ปลุกเสกไว้ อาทิ ผงนะหน้าทอง ผงปถมัง ผงอิทธิ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงโสฬสมงคล เป็นต้นมาจัดสร้างสถาปนาเป็นสุดยอดอมตะพระเครื่อง “ พระขุนแผนนะฉัพพรรณรังสี ”