ปัจจุบันนี้ วงการพระเครื่องได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง ทำให้มี ผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้กันมากขึ้น เกร็ดชีวิตคนดัง ฉบับขึ้นปีใหม่ 2568 จึงอยากจะนำเสนอ คนหนุ่มสายเลือดใหม่ไฟแรงที่มีความรู้ความสามารถเฉิดฉายในวงการพระ มาให้ทุกๆ ท่านรู้จัก เผื่อว่าน้องๆ รุ่นใหม่ที่มีใจรักพระเครื่องจะเป็นแนวทางในการเข้ามาเป็นเซียนพระในอนาคต โดยเฉพาะสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หนึ่งในสมาชิกทีม “รังเทพ” ที่ขึ้นชื่อเรื่องศูนย์รวมพระสวย นั่นคือ
สันต์ รังเทพ
(พงษ์สันต์ จันทสิทธิ์)
กรรมการตัดสินพระหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ยอดนิยม
“ครูดี พระดี เป็นพระได้ไว”
พงษ์สันต์ จันทสิทธิ์ หรือที่วงการพระเครื่องรู้จักกันในนาม สันต์ รังเทพ กรรมการรับและตัดสินพระประจำโต๊ะหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก่อนที่จะมาเล่นพระและเข้าวงการพระนั้น ผมเป็นนักฟุตบอลสโมสรมาก่อน แต่ชื่นชอบพระเครื่องมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะคุณย่าชอบพาไหว้พระสวดมนต์ไหว้พระแล้วก็พาไปวัดอยู่เสมอ พร้อมทั้งยังเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระเกจิ ประสบการณ์พุทธคุณต่างๆ จึงทำให้ชื่นชอบพระเครื่องมาแต่เด็กเลยครับ
ความที่ผมเกิดและโตที่พิษณุโลก ซึ่งจังหวัดพิษณุโลกก็จะมีพระกรุ พระเก่าค่อนข้างมาก ในแต่ละวันผมก็มักจะเห็นเขาเอาพระมานั่งส่อง กัน พอช่วงประถมความอยากรู้อยากเห็นผมก็ไปขอร่วมวงกับเขา แต่ผมมีความฝันว่าอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จึงไปเดินตามความฝันขึ้นรถไฟฟรีจากพิษณุโลกไปกรุงเทพ เพื่อที่จะมาคัดสโมสรทำตามความฝัน พอได้เล่นฟุตบอลสโมสรระยะหนึ่ง เราก็ยังคงได้เจอเรื่องราวเกี่ยวกับพระเครื่องเช่น ไปแข่งที่จังหวัดนี้ก็จะได้รู้ได้ยินได้ทราบและได้ไปไหว้พระของจังหวัด
- เข้าสู่วงการพระเครื่อง
หลังจากที่ไปตามความฝันได้ระยะหนึ่งผมมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า ตอนแรกก็เคว้งและนั่งทบทวนกับตัวเองว่าเราควรจะทำยังไงต่อ เพราะตั้งแต่เรียนจบมาก็ไม่ได้ใช้ความรู้จากสิ่งที่เราเรียนมาเลย เพราะพุ่งเป้ามาเป็นนักฟุตบอลอาชีพเลย พอไล่เลียงแล้วก็ตกผลึกว่า เราชอบพระเครื่อง บางที พระเครื่องอาจจะต่อยอดสู่อาชีพให้เราได้ จึงเริ่มศึกษาจากหนังสือ และจากอินเตอร์เน็ต เว็ปไซต์ต่างๆ ด้วยตัวเอง จนมั่นใจก็ตัดสินใจเดินสนามพระตามตลาดพระเลย เพราะความร้อนวิชา ตอนนั้นผมคิดว่าผมเก่งแล้วสบาย แยกเก๊แท้ได้ ซื้อขายได้แล้ว ก็ไปซื้อพระจากสนามแล้วลองเอาไปปล่อยให้เซียนพระบนพันธุ์ทิพย์ปรากฏว่า โดน! เรียบร้อย! เซียนไม่ซื้อ!
ตอนแรกผมคิด ว่าที่เค้าไม่ซื้อเพราะว่าเราไม่ใช่เซียน แบบที่ใครๆ ชอบพูด ว่า “พระของพวกเขาแท้หมด ของพวกเราเก๊”
แต่พอเรามานั่งดูดีๆ ศึกษาและสอบถามผู้รู้ ก็เข้าใจว่าที่เซียนไม่ซื้อนั้นถูกแล้ว เพราะพระเราไม่ใช่แบบที่สากลเค้าเล่นกัน ทำให้เราขายไม่ได้ ซึ่งสาเหตุทั้งหมดนั้นไม่ได้เป็นเพราะเราไม่ใช่เซียน แต่เป็นเพราะไม่มีความรู้นั่นเอง “พระแท้เอาไปปล่อยที่ไหนเค้าก็รับเช่า ไม่จำเป็นจะต้องเป็นพระเซียนเท่านั้น“
- เฉิน รังเทพ คือครูคนแรกที่ให้โอกาส
หลังจากที่โดนครั้งนั้น ก็เริ่มได้เรียนรู้มากขึ้น เพื่อพัฒนาตัวเองเข้าสู่งานประกวดพระฯ ในกรุงเทพฯ ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วได้จุดเปลี่ยนชีวิตเลยเพราะได้รู้จักกับพี่เฉิน รังเทพ
ตอนนั้นผมรู้จักกับพี่เฉินผ่าน Facebook แต่ยังไม่เคยเจอตัวกัน จนกระทั่งได้ไปเจอพี่เฉินในงานประกวดพระ จึงได้ขอถ่ายรูปด้วย พอถ่ายรูปเสร็จพี่เฉินพูดว่า “ว่าง ก็มาหาพี่ที่ร้านนะ มานั่งเล่นได้”
ครั้งแรกที่ได้ยินผมรู้สึกประทับใจมาก ที่พี่เฉิน รังเทพ ไม่ถือตัวทั้งที่พี่เขาเป็นเซียนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง เพราะโดยมากเราจะได้ยินได้ฟังว่าเซียนพระส่วนมากจะเข้าถึงยาก แต่พี่เฉิน ไม่เหมือนที่คนเล่ากัน
ก็เลยตัดสินใจแวะไปที่ร้านพี่เฉินดู ไปนั่งคุยกับพี่เขา แรกๆ ก็กลัวๆ กล้าๆ เพราะเราไม่ค่อยมีเงิน ถ้าไปร้านเขาเราคงไม่มีเงินเช่าพระเขาแน่ พระเขาแพงมาก เพราะตามความเข้าใจของใครหลายหลายคน จะคิดว่าหากอยากจะเข้าสู่วงการพระ อยากขอความรู้เซียนพระ จะต้องเช่าพระของเซียนมาเค้าถึงจะบอก แต่โชคดีที่ผมมาเจอพี่เฉิน รังเทพ ที่ไม่เหมือนที่ใครเขาว่าไว้
พี่เฉินเป็นคนที่ไม่เคยนึกถึงเรื่องผลประโยชน์เลย การเจอหน้าทุกครั้งพี่เฉินจะเป็นคนที่เดินซื้อพระทุกวันซื้อที่เขาชอบที่เค้าสนใจ ซื้อมาเสร็จปุ๊บถ้าผมนั่งอยู่ในร้านพี่เขา พี่เฉินจะเอาพระที่ซื้อมาให้ดู ความที่ผมได้เห็นพระแท้พระสวยๆ จากพี่เฉินทุกวัน ก็เกิดความชินตา จดจำเรื่อยมา อย่างที่ใครเขาเรียกว่า “การครูพักรักจำ” เรียกได้ว่าพี่เฉิน รังเทพ คือครูคนแรกของผม
- ก้าวสำคัญ จากสันต์ พุทธานุภาพ สู่ สันต์ รังเทพ
หลังจากที่ผมไปร้านพี่เฉินบ่อยๆ เริ่มศึกษาพระเครื่องจากพี่เฉิน จนสามารถ แยกเก๊แท้ได้ พี่เฉินก็ชวนให้ เข้ามางานประกวดพระ แรกแรกก็ให้ผมเข้ามาช่วย เรื่องทะเบียน รับพระ ระหว่างนั้นก็คอยบอกคอยสอน เพราะในงานประกวดพระเราจะเห็นพระมากมายหลากหลาย
พอได้เดินงานประกวดรวมถึงส่งพระประกวด จนพี่เฉินน่าจะเห็นความสามารถ จึงชวนผมเปลี่ยนฉายา จาก สันต์ พุทธานุภาพ เป็น สันต์ รังเทพ ตอนนั้นผมยังไม่มั่นใจ เพราะผมเป็นเพียงเด็ก มีเงินอยู่เล็กๆ น้อยๆ จะมาอยู่กับเขาได้ยังไง แต่พี่เฉินบอกว่า “มาเถอะ! มาอยู่ด้วยกัน มาเป็นน้องพี่แล้วกัน”
นี่แหละคือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของผม ผมรู้สึกว่าถ้าไม่มีพี่เฉิน รังเทพ ผมก็คงหลงทางเล่นไปเรื่อย ไม่โดนพระเก๊ ก็คงโดนพระล้างทำผิว และก็จะขาดความรู้ไปเลย แต่พอมาอยู่กับพี่เฉิน พี่เค้าจะคอยบอก คอยสอน อธิบายให้เราเข้าใจว่านี่พระล้างนะ พระทำผิวนะ แตกต่างอะไรยังไงบ้างครับ แล้วก็ไม่ใช่แค่เรื่องพระเครื่อง แต่รวมไปถึงการวางตัวและการประกอบอาชีพเป็นเซียนพระด้วยครับ ยิ่งสมัยนี้ใครก็สามารถประกอบอาชีพเซียนพระได้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ขอแค่คุณมีความรู้ ก็สามารถเข้ามายึดอาชีพนี้ได้
- เป็นกรรมการรับและตัดสินพระ
ตอนแรกผมติดสอยห้อยตามพี่เฉิน รังเทพ เข้างานประกวดพระฯ โต๊ะหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ก่อนพี่เขาจะให้ผมคอยช่วยเรื่องทะเบียนพระ หยิบจับนั่นนี่ในโต๊ะ ให้เราได้เรียนรู้พระ และรู้จักคนในวงการพระมากขึ้น ทำแบบนี้สักพักจนได้ช่วยรับพระคืนพระ
คราวนี้พี่ๆ ในสายหลวงพ่อปาน ที่มีโต๊ะอยู่ใกล้ๆ เขาเห็นว่าเรามีพื้นฐานพวกพระกรุ พระเก่า พี่เขาเลยชักชวนให้โอกาสผมลองศึกษาพระหลวงพ่อปานดูครับ
ตอนแรกผมก็คิดว่าผมจะได้ไหม เพราะ ณ ตอนนั้นพระหลวงพ่อปาน ผมแค่เห็นผ่านๆ รู้แค่ว่าแบบนี้คือพระหลวงพ่อปานเท่านั้น พี่เขาก็บอกว่า “ไม่รู้ก็ต้องศึกษา”
ผมคิดว่าในเมื่อพี่เขาให้โอกาส เราก็ลุยเต็มที่! พอถึงวันว่างที่ผมขึ้นห้างพันธุ์ทิพย์ ในทุกวันอังคาร วันศุกร์ ผมก็จะไปหาพี่ดุษฎี เจริญมหาดไทย, เฮียล้อม คลองถม, พี่โจ ท่ามะกา และพี่อีกคนที่แนะนำให้ผมมาศึกษาอย่างเต็มตัวก็คือ พี่ต่อ ตลาดไทย เป็นเซียนพระรุ่นใหม่อีกคนที่เล่นสายหลวงพ่อปาน ดีมาก เค้าให้คำแนะนำผมเสมอ พี่เค้าจะบอกไว้ว่าอยากรู้อะไรให้เข้ามาดูเลยนั่งส่อง
ผมว่าน้อยมากที่จะมีคนนำพระจำนวนหลาย 1,000,000 มาวางแล้วก็บอกนั่งดูเลยครับ และยังคอยบอกคอยให้คำแนะนำ ผมถือว่าผมโชคดีมากๆ ที่ได้มีครูที่ดีแล้วก็มีพระที่ดี ในการศึกษาเรียนรู้พระสายหลวงพ่อปานทำให้เราเป็นเร็วขึ้นครับ แต่ทั้งนี้เราต้องมีพื้นฐานในการดูพระเป็นอยู่ก่อนนะครับ แต่ถ้าไม่มีพื้นฐานจะศึกษาได้ไหม ประกอบอาชีพเป็นเซียนพระได้ไหม? ผมตอบเลยว่าได้ครับ แต่อย่างที่บอกคือต้องมีพระที่ดีและมีครูที่ดีคอยชี้แนะ รวมทั้ง
เบสิคพื้นฐานของพระเครื่องถ้าคนมีพื้นฐานหรือชอบพระเครื่องอยู่แล้วสามารถได้เกือบทั้งหมดแต่ต้องมีครูที่ดีและพระที่ดีให้เราศึกษา บางคนที่ไม่ถูกทางก็อาจจะเป็นเพราะว่าหนึ่งคือครูไม่ดี อาจจะแนะนำเราไปอีกทางหนึ่ง อีกอย่างก็คือพระเครื่องที่เอามาให้เราศึกษาอาจเป็นพระไม่แท้ พระล้างผิวบ้างมันก็จะจำตั้งแต่แรก เหมือนเราอ่านหนังสือผิด เราก็จะผิดไปตลอด
- จากรุ่นพี่แนะนำรุ่นน้อง
ผมได้ยินคำพูดจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดมาว่า “ก่อนที่เราจะเช่าพระหรือบูชาพระจากที่ไหนสักองค์ อย่างแรกเลยคือต้องศึกษาคนก่อน” สมมุติว่าเราชอบพระสายนี้เราก็ศึกษาว่าเซียนท่านนี้เป็นยังไง แล้วเราค่อยเริ่มเข้าไปพูดคุยกับเขา เรามีงบประมาณอยู่เท่าไหร่ก็เข้าไปหาเขาบอกเขาตรงตรง จากนั้นก็ศึกษาพระเครื่องต่อ ต้องดูครูที่จะศึกษาไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวแล้วซื้อใครก็ ซื้อแล้วคุณอาจจะได้พระเครื่องมา แต่อาจจะไม่รู้ว่าพระที่คุณได้ไปนั้นเป็นแบบไหน อาจจะเป็นพระเก๊ หรือเป็นพระแท้ที่พระล้างผิวมาก็ได้ ซึ่งทำให้คุณอาจจะมองไม่เห็นตำหนิที่ชัดเจน ก็จะทำให้เล่นพระผิดพลาดตั้งแต่เริ่มครับ แต่ถ้าเราเช่าพระและเช่าพระแท้จากเซียนที่การันตีให้ แล้วเค้าพร้อมที่จะสอนคุณนี่คือทางลัดในการเรียนรู้พระเครื่องที่ทำให้คุณเป็นเร็ว
- เซียนกล้องส่องพระ
หันมาเล่นกล้องส่องพระนั่นเพราะว่าความชอบส่วนตัว จากที่ศึกษามาในสมัยก่อนกล้องส่องพระที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ ในสมัยก่อนเค้าผลิตมาเพื่อใช้ส่องแผนที่ทางการทหาร หรือไม่ก็ใช้ส่องอัญมณีแต่คนไทยนี่แหละเอามาประยุกต์ใช้สองพระ กล้องแต่ละรุ่นแต่ละตัวมีเสน่ห์ที่แตกต่าง ถ้าสังเกตกล้องส่องพระของเซียนพระแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เพราะแต่ละตัวจะมีความสว่างความชัดที่แตกต่างกันมันคือเสน่ห์ของกล้องแต่ละรุ่น ทำให้ผมเริ่มที่จะศึกษากล้องส่องพระ โดยการเริ่มซื้อมาส่องพอซื้อมาก็เริ่มมีการแกะ ดูเลนส์ ทำให้รู้วิวัฒนาการการผลิตกล้องในแต่ละรุ่นแต่ละยุค ตั้งแต่ยุคแรก จนถึงยุคปัจจุบัน
ทีนี้พอหลายคนรู้ว่าผมศึกษาเรื่องกล้องก็มักจะเอามาให้ผมดูให้ จนเป็นที่มา ในการรับเช็คกล้องส่องพระ แต่จริงๆผมไม่ได้รับเช็คนะครับ ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบกล้องส่องพระเพื่อมาศึกษาสะสม แล้วก็แบ่งปันให้กับคนที่ชื่นชอบกล้องส่องพระ สะสมกล้องส่องพระครับ
สำหรับคนที่สนใจอยากศึกษาพระเครื่องหลวงพ่อปานหรือกล้องส่องพระสามารถติดต่อผมได้ ผมมีหน้าร้านที่พันธุทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 อยู่ร้านเดียวกับพี่เฉิน รังเทพ สามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ ผมยินดีให้คำแนะนำ สามารถโทรนัดล่วงหน้าได้ที่
Recommended To You
