ตะกรุดคู่จูงนางเป็นตะกรุดคู่จูงเงิน จูงทอง จูงโชค จูงลาภ ความหมายมิได้เป็นเพีงด้านมหาเสน่ห์มหานิยมเท่านั้น ยังครอบคลุมถึงการจูงนาง จูงนาย จูงคนเข้ามาหาพาเขามาซื้อของในร้าน หลวงตายอดได้ทำพิธีปลุกเสกตลอด 3 วัน 3 คืน เพื่อคุ้มครองป้องกัน ให้คนรัก คนหลง ศัตรูกลายเป็นมิตร มีโชค มีลาภ ป้องกันคุณไสย ขับไล่ภูติผีปีศาจ อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง พกติดตัวอธิษฐานตามใจชอบ
ประวัติหลวงตายอด วัดปรือเกียน แบบย่อ
หลวงปู่ยอดท่านเป็นคนบ้านปรือเกียน อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์โดยกำเนิด ในครอบครัวของหมอช้างจึงมีพื้นฐานทางพระเวทย์มาตั้งแต่เด็ก พออายุครบบวชก็บวชตามประเพณีหวังแค่ตอบแทนคุณบิดามารดาและศึกษาพระธรรมไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากบวชแล้วนั้นกับชอบคือซึ้งในรสพระธรรมจึงบวชเรื่อยมา สักพักได้ออกธุดงค์แสวงหาความรู้ให้มากกว่า เดิมหลังจากนั้นอาจมีปัญหาทางครอบครัวบ้าอย่างจึงต้องสึกไปช่วยงานทางครอบครัวด้วยความขยันจึงได้รับเลือกเป็นกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านนี่แหละผมไม่แน่ใจปกครองและพัฒนาหมู่บ้านอย่างดีเป็นที่นับถือทั่วไป จนท่านเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตจึงกลับมาบวชอีกครั้ง และไม่สึกอีกเลย ท่านได้พัฒนาวัดปรือเกียนให้เจริญมั่นคงขึ้นโดยอาศัยพระเวทย์ที่ท่านเรียนมา ท่านว่าแรงเป็นมนต์ของเขมรโบราณอานุภาพสูงมากน้อยคนนักที่จะได้ศึกษาไว้ เพราะทำไม่ดีมนต์จะเข้าตัวทำให้เป็นบ้าไปได้แต่ท่านสามารถเรียนได้และทำได้จริงจนสร้างชื่อให้ท่านเป็นอย่างมาก โดยส่วนมากท่านจะใช้เสกกับวัตถุมงคลของท่านทุกชนิด ท่านเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนท่านต้องเดินเท้าไปเรียนจากบุรีรัมย์ ไปอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีเพื่อเรียนวิชาที่วัดบ้านตะวันเย็นอาจารย์ท่านเป็นพระเขมรแต่มาจำพรรษาที่นี่แต่หลวงปู่จำชื่อไม่ได้เสียแล้วว่าท่านมีชื่อว่าอะไร ตอนแรกท่านจะไม่ไปแต่อาจารย์ท่านมาบังคับให้ท่านไปเรียนสืบไว้วิชาๆจะได้ไม่สูญและเพื่อเอาไปทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาได้ท่านจึงยอมไป ท่านเดินเท้าไปๆกลับๆๆหลายครั้งเรียกได้ว่าเดินจนถนนสึกท่านว่าอย่างนั้นกว่าจะสำเร็จได้ ระหว่างเรียนนั้นท่านต้องช่วยอาจารย์ท่านลงตะกรุดแจกชาวบ้านเสมอ เพราะอาจารย์ท่านแก่แล้วลงให้ไม่ทัน หลวงปู่ยอดในขณะนั้นลงไปด้วยเสกไปด้วยตามคาถาที่ท่านเรียนมาจาก พระอาจารย์ได้มากพอควรก็นำไปถวายอาจารย์เพื่อแจกชาวบ้าน เมื่ออาจารย์รับไปก็แจกชาวบ้านเลยมิได้เสกซ้ำให้หลวงปู่ยอดขณะนั้นก็วิตกว่าทำไมอาจารย์ของเราไม่เสกตะกรุดซ้ำเลยเป็นห่วงกลัวว่าชาวบ้านนำไปใช้แล้วจะไม้ได้ผล จึงเรียนอาจารย์ว่าตะกรุดนั้นยังไม่ได้เสกเลย อาจารย์ท่านแย้งว่าเสกแล้วท่านเสกแล้วนี่ไงเราไม่ต้องเสกแล้วคาถาท่านก็เรียนไป จากเราหมดแล้วท่านก็ทำได้เหมือนเราเพราะฉะนั้นไม่ต้องเสกซ้ำแล้วท่านจึงเบาใจ ตั้งแต่นั้นมาถ้าชาวบ้านมาขอตะกรุดพระอาจารย์ของท่านก็จะให้มาขอกับหลวงปู่ยอดแทน นับได้ว่าท่านได้วิชาตะกรุดมาด้วยโดยปริยายหลวงปู่ยอดท่านบอกว่าสมัยก่อนลำบากมากว่าจะได้วิชามา