“พระยอดขุนพลกรุวัดกาซ้อง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เป็นพระยอดขุนพลของจังหวัดแพร่โดยตรงมีพุทธศิลป์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครในล้านนา จึงถือได้ว่าเป็นพระเครื่องของเมืองคนแห่ระเบิดโดยตรง สันนิฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรล้านนาเมื่อครั้งยังรุ่งเรือง ยุคที่พระยามังรายมหาราชขยายอาณาจักรไปจนติดกับทางอาณาจักรสุโขทัยที่รุ่งเรืองในอดีต”
โดย… เอส เชียงใหม่
พระพิมพ์นี้แตกกรุครั้งแรกประมาณปี 2500 โดยนักขุดพระที่ไม่เกรงกลัวต่ออาถรรพ์ หรือสิ่งลี้ลับใดๆ ที่มนุษย์มองไม่เห็นและมีความเชื่อมาแต่ครั้งอดีตกาลว่าเป็นผู้ที่คอยเฝ้า ปกปักษ์รักษาทรัพย์สินมีค่าต่าง ๆ ภายในกรุหรือบริเวณพื้นใต้ดินดังกล่าว นามว่า โกตง ซึ่งคุณพรชัย แพร่ นายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดแพร่ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ โกตง ผู้บุกเบิก(ขุดหาพระ)ในสมัยนั้นเมื่อครั้งที่คุณพรชัย แพร่ ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ผสมเทียมพันธุ์วัว สังกัด กรป.กลาง อยู่ที่บ้านเหมืองหม้อ อาเภอเมือง จังหวัดแพร่ โกตงท่านได้เมตตาให้ข้อมูลว่า กรุพระโบราณ หรือแม้กระทั่งวัดร้างในเขตจังหวัดแพร่ โกตงท่านได้ดำเนินการขุดค้นมาหมดแล้ว ส่วนกรุวัดกาซ้องที่ขุดได้พระยอดขุนพลตามภาพที่ประกอบ
โกตงท่านไปขุดคนเดียวเนื่องจากได้ชักชวนสมัครพรรคพวกแล้ว ปรากฏว่าถูกปฎิเสธจากทุกคนไม่ไปร่วมขุดด้วยที่กรุวัดกาซ้องแห่งนี้ เนื่องจากเกรงกลัวต่อสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น โกตง จึงลงมือขุดเอง ได้พระเครื่องพิมพ์ยอดขุนพลขึ้นมาทั้งหมด 3 พิมพ์ด้วยกัน มีพิมพ์ฉัตรทวน พิมพ์ปรกโพธิ์ โดยทั้งสองพิมพ์ที่กล่าวมาจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับพระยอดขุนพลของกรุศาลเจ้าจังหวัดเชียงใหม่และพระยอดขุนพลกรุบ้านปิน อำเภอเมืองลอง จังหวัดแพร่อันเลื่องชื่อลือลั่นมีราคาสูงและพบเจอยากยิ่งในปัจจุบัน ส่วนพิมพ์สุดท้ายที่พบคือ พิมพ์ยอดขุนพลกรุวัดกาซ้องที่ปรากฏตามภาพประกอบ ซึ่งโกตรงผู้ขุดกล้ายืนยันเลยว่าเป็นเพียงพิมพ์เดียวที่พบเจอเฉพาะในจังหวัดแพร่เพียงเท่านั้น ไม่ปรากฏว่าพบเจอจากกรุอื่นใด ในดินแดนล้านนาของเราเลย หากผู้อ่านพบเจอพระพิมพ์นี้ ให้มั่นใจได้เลยว่า พระยอดขุนพลกรุวัดกาซ้องพิมพ์นี้เป็นศิลปะของเมือง คนแห่ระเบิด อย่างน่าภาคภูมิใจ
โกตง ยังเมตตาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในการขุดพระครั้งนี้ ได้พระขึ้นมาจากกรุทั้งหมดประมาณ 1 เข่ง ซึ่งท่านได้แจกจ่ายให้ผู้ที่นับถือ และอยากได้ไปปกปักษ์รักษาคุ้มครองให้แคล้วคลาด รวมทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคงแก่ชีวิตไปทั้งหมดไม่เหลือเลยแม้แต่องค์เดียว
เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาพระเครื่อง หรือเครื่องรางของขลังเหล่านี้ยังไม่ได้มีราคาค่างวดอะไรเหมือนในปัจจุบัน ส่วนการแตกกรุของพระยอดขุนพลกรุวัดกาซ้อง อาเภอเมือง จังหวัดแพร่ ครั้งที่2 คุณพรชัย แพร่ นายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดแพร่ ให้ข้อมูลว่า ราว ๆ ปี 2535 กรรมการหมู่บ้านในพื้นที่กรุวัดกาซ้องตั้งอยู่ ได้มีมติให้ปรับพื้นดินบริเวณโดยรอบเพื่อปลูกต้นสัก ให้เกิดความสวยงามเนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ และเติบโตได้ดีในเขตพื้นที่ของจังหวัดแพร่ จึงได้ว่าจ้างให้รถไถ เข้าปรับพื้นที่ซึ่งเป็นเนินดินฐานเจดีย์เก่า
พอรถไถเข้าเกลี่ยหน้าดินให้กระจายโดยรอบ ได้มีชาวบ้านสองสามคนเดินเข้าไปดูที่ดินตรงบริเวณดังกล่าวพบว่ามีพระยอดขุนพลกรุวัดกาซ้องสภาพแตกหักปะปนมากับเศษอิฐเศษดินที่รถไถได้ดำเนินการเกลี่ยกลบดินให้เรียบดังกล่าว ข่าวการพบพระพิมพ์ได้ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านในพื้นที่ และที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียงก็เฮโลเข้าไปในพื้นที่ในทันที่ เพื่อทำการขุดค้นหาสิ่งของมีค่า และพระพิมพ์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
การขุดค้นในครั้งนั้น คุณพรชัย แพร่ ได้มีโอกาสร่วมขุดค้นพระในครั้งนั้นด้วย ส่วนใหญ่ที่พบพระจะแตกหัก ชารุด ที่พบเห็นสมบูรณ์มีประมาณ 3 องค์ เป็นพระยอดขุนพลพิมพ์ปรกโพธิ์ 2 องค์ ส่วนพระพิมพ์ยอดขุนพลกรุวัดกาซ้อง ดังปรากฏตามภาพ พบเจอที่สมบูรณ์ไม่ชำรุดเพียง 1 องค์เท่านั้น ซึ่งคุณพรชัย แพร่ ท่านได้รับซื้อจากผู้ขุดพบไว้ทั้ง 3 องค์ และต่อมาได้จำหน่ายไปหมดในภายหลัง ปัจจุบันพระยอดขุนพลกรุวัดกาซ้อง อาเภอเมือง จังหวัดแพร่ ที่สภาพสวยสมบูรณ์ไม่ชำรุดแตกหัก จะมีราคาในการเช่าหาค่อนข้างสูง เนื่องจากคนในพื้นที่จังหวัดแพร่ นำไปบูชาติดตัวเป็นศิริมงคล และเกิดความแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงได้เห็นเป็นที่ประจักษ์มานักต่อนัก จึงเกิดความหวงแหนและช่วยกันอนุรักษ์พระพิมพ์ชนิดนี้ไว้เป็นมรดกตกทอดสืบลูกสืบหลานต่อไป จึงทำให้พบเจอได้ยากกว่าในอดีตที่ผ่านมา….ก้องสภา คนแห่ระเบิด…ผู้เรียบเรียง