ณัฐพงษ์ ชวาลรัตนสกุล หรือ ต้น ท่าพระจันทร์ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเหรียญ และแชมป์แฟนพันธุ์แท้แห่งปี 2008
เกร็ดชีวิตคนดังฉบับนี้กับเซียนพระคนหนุ่ม รุ่นใหม่ ไฟแรง มาให้ท่านผู้อ่านได้พบปะ รู้ลึก รู้จริงกับเค้าคนนี้ บางท่านอาจจะเคยรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง ถ้าท่านเป็นแฟนรายการ “แฟนพันธุ์แท้” ท่านต้องจำเซียนพระหนุ่มคนนี้ได้….
ณัฐพงษ์ ชวาลรัตนสกุล หรือ ต้น ท่าพระจันทร์
สุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเหรียญ และแชมป์แฟนพันธุ์แท้แห่งปี 2008
“ถ้าถามถึงจุดเริ่มต้นในวงการพระเครื่องของผมเริ่มมาจากครอบครัว ซึ่งมีเฮียปากคลองคุณพ่อของผมนี่แหละเป็นเซียนพระคลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่อง ผมก็ซึมซับคุ้นเคยมาตลอด …หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี ก็ยังไม่ได้สมัครงานที่ไหน เวลาพ่อไปไหนก็ตามไปด้วยตลอด ตอนแรกผมไม่เข้าใจหรอกว่าเค้าเล่นกันยังไง? เก๊-แท้ ดูตรงไหน? ผมเห็นแต่ว่าเค้าซื้อมา 2,000.- ขาย 4,000.- ซื้อ 3,000.- ขาย 6,000.- ผมก็มองว่าพระเครื่องเป็นของที่มีคุณค่ามีราคา เป็นสากลเป็นมาตรฐานเค้าถึงซื้อขายกันได้ แต่เมื่อไหร่ที่มีราคาแค่คนๆเดียว ผมคิดว่าเป็นเรื่องสมมุติ แต่ความเป็นสากลมีมาตรฐานที่ผมพูดถึงนี้ มีคุณค่ามีราคามีคนพอใจ ขวนขวายที่จะเช่าหาบูชาเป็นของที่พิสูจน์ได้ เลยมองว่าน่าสนใจพอที่จะทำเป็นอาชีพได้ เลยเริ่มศึกษาดู…”
“ส่วนการศึกษาพระเครื่องของผมนั้นหลักๆก็คือพ่อผม นอกจากนั้นก็เป็นเฮียตี๋ วัดไทร ให้ความรู้ผมเยอะมาก เป็นคนที่ให้ความรู้คนอีกหลายๆคน ไม่หวงวิชา เป็นคนเก่งคนหนึ่งของวงการพระเครื่องเรา… หลังจากที่ผมเรียนจบประมาณปี 42 ผมก็มานั่งคิดดูว่าเราจะทำงานอะไร? สมัครงานที่ไหน? ปัจจัยหลักที่เป็นตัวกลางก็คือเงิน ทำงานก็ต้องให้ได้เงิน ถ้าเราเล่นพระเราก็ได้เงินเหมือนกัน และพระเครื่องก็มีคุณค่า มีความหลากหลาย ผมดูจากพ่อผมก็อยู่วงการพระเครื่องมาทำงานคนเดียวในบ้าน ดูแลเราได้ ก็แสดงว่าเป็นอาชีพที่ดีอุ้มชูตัวเองได้ ผมก็เลยตัดสินใจศึกษาเล่นพระเครื่องตั้งแต่ตอนนั้น…”
“ผมเริ่มศึกษาหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นอันดับแรก ผมชอบหลวงปู่โต๊ะ จากนั้นก็เป็นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ผมเริ่มจากรุ่น 4 และรุ่น 6 ซึ่งตอนนั้นราคายังไม่แพง ก็รู้สึกว่าดีไปได้สวยเลยคิดว่าจะเล่นพระเหรียญกับพระเนื้อผงเป็นหลัก ส่วนร้านพระเครื่องร้านแรกของผมก็เริ่มต้นจากท่าพระจันทร์ประมาณปี 44 ผมคิดว่าเมื่อเราทำตรงนี้เราก็ต้องมีร้านที่เป็นชื่อของเราเอง ผมไม่ได้ยึดว่าเดือนๆหนึ่งต้องได้เงินมากน้อยแค่ไหน สมมุติว่าเดือนหนึ่งผมได้สัก 20,000.- ผมก็ชนะคนที่เค้าจบปริญญาตรีที่ได้เงินเดือนๆละ 8,000.- พอผ่านไปสัดปีความก้าวหน้ามันมีมากกว่าทำงานทั่วไป สมมุติว่างานทั่วไปได้เดือนละหมื่น พอสิ้นปีขึ้น 10% ก็เท่ากับ 11,000.- แต่วงการพระเดือนแรกได้หมื่นพอสิ้นปีได้ 60,000-70,000.- อัตราก้าวหน้าสูงเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมก็เลยคิดว่าอยู่วงการพระนี่แหละดีที่สุด”
“หลักในการเล่นพระของคุณต้นบนถนนสายพระเครื่องสำหรับผมมีอย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ “ความรับผิดชอบ” คนที่มาเช่าพระกับเราเค้าไม่รู้เรื่องพระหรอก เค้าก็มาดูว่าใครรับผิดชอบเค้าได้มากกว่ากัน ของเหมือนกันเช่าบูชาที่ไหนก็ได้ แต่ความรับผิดชอบหล่ะ? ไม่เท่ากันแน่นอน ดังนั้นผมจึงยึดความรับผิดชอบเป็นหลักครับ!”
สำหรับตำแหน่งสุดยอดแฟนพันธุ์แท้พระเหรียญและแชมป์แฟนพันธุ์แท้ปี 2008 เป็นมาอย่างไร? “ตอนนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องหรอกว่าเค้าแข่งอะไรกัน พอดีผมเข้าไปหาพี่รักษ์ ศรีเกตุ แกก็บอกว่าตอนนี้บริษัทเวิร์กพอยท์กำลังหาเซียนพระรุ่นใหม่ให้ไปลองแข่งดู ผมก็เอ้า! ลองก็ลอง ไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่คิดว่าจะได้ตำแหน่ง ผมแค่จะเข้าไปซื้อพระพี่รักษ์เท่านั้นเอง แต่ผมก็เชื่อเรื่องโชคชะตา…
ถ้าถามผมว่าชีวิตผมเปลี่ยนไปหรือไม่หลังจากที่ได้ตำแหน่ง? ผมตอบได้เลยว่าเปลี่ยน เปลี่ยนตรงที่มีลูกค้ารู้จักผมมากขึ้น รายการโทรทัศน์มีอิทธิพลสูงสร้างความทรงจำให้กับผู้ชมอย่างชัดเจน อย่างไรก็แล้วแต่อาชีพชื่อเสียงจะอยู่นานไม่นานก็อยู่ที่ตัวเรา ก็วนกลับมาที่จุดเดิมอีกนั่นก็คือ ความรับผิดชอบ เท่านั้นแหละครับ!!…
“พระเครื่องเป็นการสร้างอาชีพที่ดี บางคนเข้ามาโต โดดเด่นได้ปีสองปีแล้วก็หลุดจากวงการนี้ไปก็มี ก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบนั่นแหละ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อวงการพระเครื่อง ต่อคนร่วมอาชีพ ต่อลูกค้าของเรา ยิ่งคุณมีความรับผิดชอบต่ออาชีพใครๆก็รู้ว่าคุณเล่นแท้ เล่นดี ลูกค้าก็มาเอา… อย่างที่ผมบอกอยู่ที่ความรับผิดชอบของตัวเองเท่านั้นแหละครับ…
หลักในการดำเนินชีวิตบนถนนสายพระเครื่องของต้น ท่าพระจันทร์ คืออะไร? “นอกจากความรับผิดชอบที่ผมกล่าวมาทั้งหมดแล้ว ที่ผมจำอยู่ตลอดนั่นก็คือ อย่าลืมตัว! และอ่อนน้อมถ่อมตน! เพราะทุกวันนี้คนเราไม่ได้ตบกันที่ความเก่งแต่คบกันที่นิสัยใจคอครับ…”
สำหรับนักนิยมสะสมพระเครื่องทุกท่านที่อยากพูดคุยกับ ต้น ท่าพระจันทร์ ทุกวันจันทร์-พุธ-พฤหัสบดี เชิญได้ที่ตลาดพระท่าพระจันทร์ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.-18.00 น. ส่วนวันอังคาร-ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เชิญได้ที่ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 โทรสอบถามก่อนได้ที่เบอร์ 081-315-1576 พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ….
by…ตูน สสุมา