เกร็ดชีวิตคนดัง

“หมู วัดกิ่ง” (ชัชวาล ผึ้งทอง) กรรมการตัดสินพระโต๊ะหลวงปู่เผือก

%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b9-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%8a%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a5-%e0%b8%9c%e0%b8%b6%e0%b9%89

          นายชัชวาล ผึ้งทอง หรือฉายาในวงการ หมู วัดกิ่ง กรรมการตัดสินพระโต๊ะหลวงปู่เผือก ยึดคติประจำตัว สิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้ คือสิ่งที่เรายังไม่ได้ลงมือทำ

          คุณหมู วัดกิ่ง เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการศึกษาพระเครื่องให้ฟังว่า เผมริ่มสนใจในเรื่องพระเครื่องมาตั้งแต่เด็กเป็นเด็กวัดกิ่งแก้ว สมัยประมาณอายุ 12-13 ปี ในละแวกบ้านที่อยู่มีอาที่รู้จักแกชอบเล่นพระ และชอบได้ยินผู้ใหญ่ในวงเหล้าคุยกันเรื่องพระนั้นดังพระนั้นดี ปู่เคยมีพระสมเด็จเคยมีพระขุดสระ และอีกมากมายในวงเหล้า ทำให้ตัวผมเองอยากรู้อยากเห็นอยากดูพระเก่งเป็นเซียนกับเขาบ้างประกอบกับที่บ้านนั้นมีกล่องพระอยู่หลายกล่องจึงเอามาดูแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องเท่าใดนักไม่เก่งเลยก็ว่าได้

          ก่อนที่จะจริงจังเรื่องพระเครื่องนั้นผมเองได้ทำงานมาหลายอย่างตั้งแต่เด็กรถส่งของเซเว่น พนักงานโรงงาน รับจ้างทั่วไปกรรมกรก็เคยเป็นมาแล้ว อาชีพก่อนมาซื้อขายพระก็คือทำงานร้านรับซื้อของเก่า จนต่อมาอายุครบบวชก็ได้บวชที่วัดกิ่งแก้ว ( หลวงปู่เผือก ) ซึ่งในตอนนั้นก็มีศรัทธาในหลวงปู่เผือกอยู่แล้วแต่ยังขาดความรู้ในเรื่องเนื้อหาพิมพ์ทรง ก็ได้มีโอกาสซื้อหนังสือรวมเล่มหลวงปู่เผือกมาดูภาพและได้ พี่ทิวาพร แย้มมีเชาว์ ซึ่งผมเองเคยได้ไปอาศัยกินนอนที่บ้านท่านให้ความอนุเคราะห์ให้ดูพระแท้แถมยังให้แบ่งมาบูชาดูตัวอย่าง 1 องค์พระหลวงพ่อโตสี่เหลี่ยมฐานบัวปี 2496 เอามาให้ดูเนื้อหาเป็นองค์ครูก็ศึกษาดูเนื้อหาดูพิมพ์เรื่อยๆมาลองผิดลองถูกแท้บ้างเก๊บ้าง

          จนหลังจากที่ออกเดินสนามครั้งแรกต้องไปที่ตลาดนัดข้างทางก่อนไปดูตามแผงจรข้างทางมีกล้องส่องพระหนึ่งอันซื้อมา 50 บาทเป็นอาวุธคู่กายนั่งรถสองแถวไปเพราะตอนนั้นมีสตังค์หลังจากสึกพระมาแค่ 2000 ประมาณปี 2548 ไปหาซื้อพระหลักร้อยก่อนเน้นพระวัดกิ่งแก้ว เล่นมาสักพักเริ่มจับทางได้ว่าแบบนี้มีราคาแบบนี้ไม่เล่น แยกแยะเนื้อหาพระแต่ละประเภทได้ก็เริ่มมีเงินเก็บบ้างเลยไปผ่อนรถมอเตอร์ไซด์ มาหนึ่งคันมาออกหาซื้อพระแต่ก็ยังทำงานรับจ้างร้านของเก่าอยู่ ชีวิตเริ่มเปลี่ยนเมื่อออกสู่โลกกว้าง ก็มารู้จักพี่ๆครูบาอาจารย์หลายๆท่านที่เป็นที่รู้จัก เช่น พี่เล็ก วัดกิ่ง พี่หอย ปากน้ำ พี่โอ๋ หนามแดง พี่แจ๊ว บางพลี พี่เฉิน ปากน้ำ และอีกหลายๆท่านที่เล่นพระและมีชื่อเสียงอยู่แล้ว เป็นเหมือนครูอาจารย์เพราะในช่วงนี้ผมเองเริ่มเล่นพระที่มีราคาสูงขึ้น หรือที่เรียกว่าพระหลักมีราคาที่สูง โดยใช้วิธีไปหาซื้อพระแท้จากท่านเหล่านี้มาศึกษาและท่านเหล่านี้จะแนะนำท่านละเล็กละน้อยในลักษณะเนื้อหาและมาตรฐานว่าแบบนี้นะ ที่เรียกแท้ดูง่ายแบบนี้นะ แท้แต่ดูยากหรือโดยส่วนมากผมเองจะเป็นคนซื้อมาและนำมาขายกับพี่ๆเหล่านี้

          ตอนนั้นสนุกมากเลยเลิกทำงานร้านรับซื้อของเก่าหันเหชีวิตเข้ามาในวงการพระเครื่องแบบเต็มตัว มีสิ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่สอนผมมาแล้วผมเองยังจำขึ้นใจจนทุกวันนี้ก็คือ เล่นพระนะหมูต้องเล่นด้วยความซื่อสัตย์ ไม่โลภมากแค่เงินไม่กี่บาท ถึงเราโดนพระเก๊มาเราต้องยอมรับสภาพไม่เอาไปขายลูกค้าต่อ แล้วเราจะอยู่ในวงการพระได้อีกนานแถมมีชื่อเสียงและลูกค้าที่ยอมรับอีกมากมาย คำนี้ผมจำขึ้นใจมาจนทุกวันนี้ ตอนนี้เริ่มมีเงินเหลือสามารถซื้อรถยนต์ด้วยเงินสดมีเงินเก็บและเป็นที่ยอมรับในส่วนหนึ่ง

          จนกระทั่งในปี 2551 ได้รับมอบความไว้วางใจจากพี่ๆในชมรมพระเครื่องจังหวัดสมุทรปราการ ให้เข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสินพระครั้งแรกซึ่งในตอนนั้นดีใจมากๆครับผมที่พี่ๆให้โอกาส ซึ่งได้อยู่โต๊ะหลวงปู่เผือกเนื้อผง ชุดที่ 2 ในงานประกวดพระเครื่องที่จัดโดยชมรมพระเครื่องจังหวัดสมุทรปราการที่จัดขึ้นที่ศาลากลางจังหวัด แต่ก็ยังไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมพระเครื่องจังหวัดสมุทรปราการ

          ในคราวที่ อาจารย์จงรักษ์ ปากน้ำ ประธานชมรมพระเครื่องสมุทรปราการขณะนั้นหมดวาระได้มีการเลือกประธานคนใหม่โดยที่ พี่หอย ปากน้ำ ประธานคนปัจจุบันในตอนนั้นได้เปลี่ยนแปลงปรับปรุงการทำงานของชมรมพระเครื่องสมุทรปราการ ผมเองจึงได้มีโอกาสจากพี่หอยชักชวนมาร่วมงานโดยมี ก้อง กิ่งแก้ว และเบียร์ วัดด่านเป็นแรงเชียร์ จนได้รับความไว้วางใจในการดูพระหลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้วให้ผมเองทำหน้าที่กรรมการตัดสินชี้ขาดในพระชุดหลวงปู่เผือก และหลังจากนั้นทางสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยให้แต่ละชมรมคัดเลือกกรรมการตัดสินพระประจำชมรมให้เป็นกรรมการของสมาคม

          ผมเองได้รับคัดเลือกจากพี่หอย ปากน้ำ ให้เป็นหนึ่งในกรรมการของสมาคมซึ่งรับรองโดยท่านนายก พยัพ คำพันธุ์ เป็นผู้รับรอง ซึ่งผมเองดีใจที่สุดในชีวิตของคนเล่นพระที่ได้มาถึงจุดนี้ หลังจากนั้นผมเองตั้งใจแน่วแน่ปฏิญาณตนว่าตัวเรานั้นมีวันนี้เพราะหลวงปู่เผือก เราจะทำให้หลวงปู่มีชื่อเสียงขจรขจายให้มีผู้คนมาศรัทธาจากทุกสารทิศ โดยผมนั้นประกาศเลยครับใครมีหลวงปู่แล้วอยากแบ่งให้บูชาผมรับเช่าแบบราคาที่หนักหน่วงจนเป็นที่กล่าวขาน แม้ในปัจจุบันพระขุดสระหลวงปู่เผือกที่ว่าสวยแพงขนาดใหน ผมเองก็สู้ราคาจนแม้กระทั้งพี่น้องชาวต่างประเทศยังหันมานับถือศรัทธาในหลวงปู่เผือกกันเลยก็ว่าได้ และอีกประการที่ผมทำมาตลอดคือกำไรแบ่งส่วนเอาไปทำบุญเป็นสาธารณะประโยชน์ตามที่รับปากกับหลวงปู่เผือกไว้ จนได้มีโอกาสได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 5 เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ สิ่งเหล่านี้ผมเองได้มาจากวงการพระเครื่องโดยทั้งหมดครับผม

        สุดท้ายนี้ผมเองต้องขอฝากข้อคิดกับ น้องๆที่เข้ามาเล่นพระยุคนี้ซึ่งเทคโนโลยีก้าวไกลว่า ศาสตร์แห่งพระเครื่องนั้นไม่ได้เล่นเป็นหรือเก่งง่ายแค่ปลายนิ้วพิมพ์ลงที่แป้นพิมพ์ แต่การที่จะเล่นพระเป็นหรือเก่งได้ต้องมีของแท้เป็นครูต้องเชื่อฟังในสิ่งที่ผู้ใหญ่ท่านสอน และที่ขาดเสียไม่ได้อย่าลืมในบุญคุณของคนเหล่านั้นแล้วจะเล่นพระเก่งและเจริญรุ่งเรือง ในวงการพระเครื่องต่อไป โทรสอบถามได้ที่ เบอร์ 087-095-2667 

0 Comments

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*

WordPress Image Lightbox