เกร็ดชีวิตคนดัง

ครูยศ กำแพง ศึกษาพระเครื่องตั้งแต่ ป.4 ฝึกฝนฝีมือจนเป็นที่ยอมรับให้เป็นเซียนพระกรุ ล่าสุดได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการบริหารสมาคมฯ สาขาจังหวัดกำแพงเพชร

%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b8%a2%e0%b8%a8-%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-%e0%b8%a8%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b7

ชัยยศ เกียรติเบญจกุล หรือ ครูยศ กำแพง เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงพระกรุ เนื่องเพราะเป็นคนจังหวัดกำแพงเพชร ได้ใกล้ชิดและเห็นพระกรุมาตั้งแต่ ป.4 จนแม่นยำ อีกทั้งยังเคยเปิดกรุเองกับมือมาก่อน ดังนั้นจึงเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญพระกรุสายกำแพงเพชรชื่อดังคนหนึ่ง

          “ก่อนที่จะมาเล่นพระเครื่องผมรับราชการครูอยู่ที่กำแพงเพชรนั่นล่ะครับ มูลเหตุที่เริ่มเล่นพระตั้งแต่ตอนไหนนั้น ? …ถ้าย้อนไปตั้งแต่เริ่มสนใจพระจริงๆ ก็คงจะเป็นตอน ป.4 เลยครับ เพราะบ้านผมอยู่แถวตลาดนครชุม ที่คนแถบนั้นเป็นนักขุดพระและเล่นพระกันเยอะเรียกว่าเป็นศูนย์รวมคนเล่นพระกำแพงเลย ในชุมชนจะมีร้านโชห่วยอยู่ร้านหนึ่งเวลาเค้าขุดพระได้ปุ๊ปเค้าก็จะมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันที่นี่ บางทีเค้าไม่มีตังเค้าก็จะเอาพระมาแลกของบ่อยๆ ทำให้เราเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ และสนใจมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย”

          เมื่อถามว่าครูยศ กำแพง ศึกษาพระเครื่องมาตั้งแต่ ป.4 เลยใช่หรือเปล่า? ครูยศ กำแพง พูดกลั้วหัวเราะว่า “จะว่าแบบนั้นก็ได้เพราะตอนนั้นเราเห็นเขาซื้อขาย เขาส่องกันก็เลยสนใจออกแนวอยากรู้ว่าผู้ใหญ่ทำอะไรก็ไปด้อมๆ มองๆ กับเขาตามประสาเด็ก แล้วเตี่ยผมก็มีความก็สนใจพระเครื่องด้วยที่บ้านก็เลยมีพระเยอะมากโดยเฉพาะพระกำแพง ผมก็เลยมีโอกาสส่องดูแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำ พอได้ดูทุกวันได้เห็นทุกวันก็ซึมซับ และเริ่มศึกษาพระกำแพงมาตั้งแต่ตอนนั้นนั่นล่ะครับ”

            “พอเป็นพระแล้วตอนหลังโตมาสักหน่อย อายุประมาณ 17-18 ผมก็เริ่มไปขุดพระกับพวกนักขุดพระ ขุดมาดูพิมพ์ทรงเอามาส่องมาศึกษา จนช่วงที่ทำงานเป็นครูแล้วอายุน่าจะประมาณ 23 ปีผมก็ได้ไปขุดพระและเปิดกรุเองค่อนข้างหลายกรุเลยครับ ส่วนใหญ่คนที่ไปขุดด้วยกันก็ครูทั้งนั้น” ครูยศ กำแพง เล่าให้ฟังไปด้วยรอยยิ้ม

          “มูลเหตุที่ผมเป็นพระนั้นเพราะผมเห็นพระแท้มาตลอด แล้วสมัยก่อนเนี่ยยังไม่มีของเทียมเหมือนสมัยนี้ ส่วนวิธีการศึกษาพระของผมนั้น อันดับแรกก็คือดูทรงพิมพ์ ผมว่าไม่ว่าจะพระจังหวัดไหนอันดับแรกถ้าเราศึกษาทรงพิมพ์แล้วจำแม่นก็จะเป็นพระง่ายขึ้น และก็เห็นพระแท้บ่อยๆ ดูบ่อยๆ ส่องบ่อยๆ ผมไม่เคยสอบถามใครนะ เป็นพระได้เพราะความเคยชินจริงๆ ผมเป็นพระเพราะเห็นบ่อยจริงๆ เห็นเยอะมาตั้งแต่เด็ก มันก็เลยซึมซับ เหมือนเราเห็นเพื่อนเราเห็นไกลๆ ก็จำได้ พระก็เช่นกันเราเห็นบ่อยๆ จนชินตา มีตำหนิตรงไหน อะไรยังไงก็จะรู้”

          ครูยศ กำแพง เล่าต่อว่า จากที่ขุดพระเพื่อความชอบเอามาศึกษาก็เริ่มซื้อ-ขายพระเนื่องเพราะ “จากที่เราได้ขุดพระหลายกรุที่ และมีคนรู้ว่าเราถนัดพระสายกำแพงเพชรนะ พระกรุต่างๆ ของกำแพงเพชรผมมีเก็บไว้เยอะเริ่มมีชื่อเสียงก็เริ่มมีคนรู้และมาขอแบ่ง ขอเช่า แล้วคนที่มาแบ่งส่วนใหญ่จะเป็นครู ตำรวจ หมอ ผมก็เลยปล่อยให้เช่าบ้าง แต่ก็มีเก็บไว้บางส่วนเอาไว้ให้ลูก และส่วนตัวก็บูชาแขวนติดตัว เช่น พระพลูจีบ ว่านหน้าทอง ที่ขุดเองได้ที่วัดพระแก้ว ประมาณปี 35-36 และทุกวันนี้ก็ยังแขวนใช้อยู่เลยครับ”

          “แต่ก่อนผมจะซื้อขายแต่ในกำแพงเพชรอย่างเดียว หลังๆ ก็ไปตลาดพระ และงานประกวดพระ ก็ตามเสต็ป แต่มาเริ่มเข้าสู่วงการพระเครื่อง เพราะได้มีโอกาสรู้จักกับ พี่วี มรดกพระเครื่อง หรือจ่าทวี แกรู้จักและสนิทกับเสี่ยหนุ่ย เมืองกาญจน์ ซึ่งเสี่ยหนุ่ยกับผมก็มีความสนิทกันอยู่แล้ว เขาก็เห็นว่าเราชำนาญพระกำแพงเพชร พี่วีและเสี่ยหนุ่ยก็เลยชวนผมเข้ามาในวงการพระเครื่อง และได้เริ่มเป็นกรรมการตัดสินพระ ครั้งแรกที่เป็นกรรมการรับและตัดสินพระนั้นรู้สึกจะเป็นที่จังหวัดราชบุรี จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็น่าจะ 30 ปีได้แล้วที่อยู่ในวงการพระเนี่ยะ แต่ถ้าให้นับว่าตั้งแต่ขุดพระเล่นพระมาก็จะ 40 กว่าปีแล้วนะ ตอนหลังป๋าพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย เค้าก็คงจะเห็นว่าเรามีความสามารถเค้าก็เลยตั้งให้เป็นประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดกำแพงเพชรครับ”

          ครูยศ กำแพง บอกอีกว่า “ปัจจุบันพระกรุกำแพง จัดให้อยู่ในพระชุดเบญจภาคี ซึ่งว่ากันว่าพระกำแพง แพงทุกพิมพ์ ทำให้มีคนสนใจจะเล่นหาเยอะขึ้น จึงอยากจะแนะนำคนรุ่นใหม่ที่สนใจศึกษาพระกำแพงเพชรว่า “ต้องศึกษาทรงพิมพ์ให้ดีครับ ศึกษาจากพระแท้ หรือศึกษาจากคนที่เขามีความชำนาญและมีพระแท้จริงๆ แล้วพยายามดูให้เยอะ ส่องให้เยอะ ดูทรงพิมพ์ให้แม่นอย่างเดียวก่อนเลย เพราะว่าพระกำแพงเค้าจะมีลักษณะประติมากรรมนูนต่ำ แค่นั้นเองไม่มีลวดลายอะไรเยอะแยะ แต่เราจะต้องจำให้ได้ว่า หน้าตาเป็นยังไง ปากเป็นยังไง การวางแขนเป็นยังไงต้องจำให้แม่นครับ”

          “ผมอยากจะให้พี่น้องซึ่งเล่นพระกันใหม่ได้เล่นพระกันอย่างถูกทาง พระแท้ เป็นยังไง พระเก๊เป็นยังไง เพราะสมัยนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำกันจนแบบบางครั้งคนเล่นพระใหม่ๆ หลงทาง ผมและสมาชิกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดกำแพงเพชร ก็เลยมีความคิดว่าอยากจะจัดงานประกวดพระขึ้น เพื่อดึงคนที่เล่นพระใหม่ๆ ให้กลับมาเล่นพระให้ถูกทางตามมาตรฐานสากล และนับเป็นการอนุรักษ์ และเผยแพร่พระ และให้เป็นไปตามหลักของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ที่เป็นที่ยอมรับครับ”

          “ประจวบกับที่ได้เข้าขอคำแนะนำกับ พระราชวชิรเมธี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ ท่านเองก็เห็นว่าคำขวัญของเมืองกำแพงเพชร มีว่า กรุพระเครื่อง เมืองคนแกร่ง พระเเสงฯ ล้ำค่า ศิลาแลงใหญ่ กล้วยไข่หวาน น้ำมันลานกระบือ เลื่องลือมรดกโลก และทางจังหวัดจะมีการจัดงาน สาทรใหญ่ ซึ่งเป็นงานประจำปีขึ้น ท่านก็เลยดำริว่า อยากจะให้มีการประกวดพระขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงานสารทใหญ่ของกำแพงเพชร โดยจะจัดในอาทิตย์สุดท้ายของงาน ทางผมและสมาชิกสมาคมฯ กำแพงเพชรเองก็เล็งเห็นว่า พระกำแพงนั้นเป็นพระที่ขึ้นชื่อ มีคนเล่นหากันมากอันดับต้นๆ ของประเทศก็ว่าได้ และยังถูกจัดให้เป็นพระชุดเบญจภาคี ซึ่งไม่ได้มีแค่พิมพ์เดียวแต่มีมากมายหลายพิมพ์เลยครับ ทั้งเม็ดขนุน พลูจีบ ซุ้มกอที่จัดอยู่ในชุดเบญจภาคี เลยผนวกเอางานประกวดพระเข้าไปร่วมด้วยกับงานประจำปีนี้เลยครับ โดยจะจัดกันเป็นงานใหญ่ วันที่ 5-6 ตุลาคม 2562 ที่จะถึงนี้”

          “ถ้าคนรุ่นใหม่ที่อยากเล่นพระเครื่องโดยเฉพาะพระสายกำแพง ผมขอแนะนำเลยว่าห้ามพลาดงานนี้ครับ เพราะในครั้งนี้ ทางทีมงานสมาคมฯ สาขาจังหวัดกำแพงเพชร มีรางวัลชนะเลิศแต่ละรายการ เป็นหนังสือคลาสสิคพระกรุเมืองกำแพงเพชร ซึ่งสามารถใช้เป็นเล่มครูในการศึกษาได้เลย รวบรวมพิมพ์พระกำแพงค่อนข้างเยอะ รูปพระมีประมาณ 3-4 พันรูป ให้เราได้ดูพิมพ์ทรง ได้จำพิมพ์ทรง”

หากใครที่สนใจจะพบปะพูดคุยกับครูยศ กำแพง ถึงพระกรุกำแพงเพชร ก็สามารถติดตามได้ที่เฟสบุ๊ค ชัยยศ เกียรติเบญจกุล หรือนัดเจอกันได้ตามงานประกวดพระ โทร. 081-887-9763 ครูยศ กำแพง ยินดีให้คำแนะนำ เพื่อรุ่นน้องๆ ใหม่ๆ จะได้เล่นพระให้ถูกทาง

0 Comments

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*

WordPress Image Lightbox