บุญเลิศ พวงงาม หรือ เอก ท่าพระจันทร์
จากเซลขายรถยนต์สู่ เซียนพระแนวหน้าหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ยอดนิยม
การันตีความสามารถด้วยตำแหน่งประธานกรรมการบริหารสมาคมฯ สาขาจังหวัดตรัง
เอก ท่าพระจันทร์ เป็นคนจังหวัดตรังมาแต่กำเนิด โดยก่อนที่จะหันเหมาเล่นพระเครื่องนั้นเจ้าตัวเผยว่า “จริงๆ แล้ว ผมชอบพระเครื่องมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว เพราะคุณพ่อให้แขวนพระมาตั้งแต่เด็กก็เลยซึมซับเรื่องพุทธคุณของพระเครื่องมาตลอด เรียกง่ายๆ ว่าศรัทธาและชอบพระเครื่องตั้งแต่ก็ยังไมได้สนใจพระเครื่องจริงจัง จนเมื่อโตขึ้นผมทำงาน เป็นพนักงานฝ่ายขายของบริษัทมิตซูบิชิ พอมีเวลาว่างผมก็ไปเดินดูพระเครื่องตามสนามพระ พอเจอก็จะซื้อเก็บๆ ไว้ ตอนนั้นพระที่ผมซื้อส่วนใหญ่จะเป็นพระหลวงพ่อทวด และพระจังหวัดตรังราคาเบาๆ ก่อน” เรียกได้ว่าเป็นจุดสตาร์ทให้เอก ท่าพระจันทร์ ได้หันหน้าเข้าสู่วงการพระเครื่องก็ว่าได้
หลังจากเริ่มซื้อพระเก็บได้สักระยะ วันว่างจากการทำงาน เอก ท่าพระจันทร์ ก็ทดลองเปิดแผงพระที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง และทำให้ได้รู้จักเซียนที่อยู่ในท่าพระจันทร์ (ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้อยู่แล้ว) เพราะเซียนท่านนี้มาเปิดแผงที่ปั๊มด้วยจึงได้รู้จักกันสนิทสนมกัน บางวันก็เข้าไปหาที่ท่าพระจันทร์ ไปนั่งดู และถือโอกาสศึกษาพระเครื่อง และบางครั้งก็ซื้อหลวงปู่ทวดกลับมา หลังจากนั้นจึงรู้จักกับคนในท่าพระจันทร์อีกหลายๆ ท่าน
จวบจนช่วงหนึ่งวงการรถเริ่มซบเซา เป็นจุดหักเหให้ คุณเอก ท่าพระจันทร์ ตัดสินใจเลือกเข้าสู่วงการพระเต็มตัว “ผมตัดสินใจอยู่พักหนึ่งว่าจะออกจากที่ทำงานดีไหม แล้วมาซื้อขายพระที่ท่าพระจันทร์ แต่ใจหนึ่งก็ถามตัวเองว่าความรู้ที่เรามีจะสู้เขาได้หรือเปล่า ก็เลยเข้าท่าพระจันทร์ ไปดูเวลาเค้าซื้อเค้าขาย คอยชะเง้อดูว่าเค้าซื้ออะไร ฟังเค้าว่าราคาเท่าไหร่ เรียกว่าครูพักลักจำเขา บางวันก็ไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ซึ่งทุกท่านให้ความเมตตา เอาพระให้ส่อง คอยอธิบายให้ความรู้เรา ผมใช้เวลาตัดสินใจเป็นเดือนๆ จนมีความมั่นใจก็ลาออกจากงานประจำแล้วก็เข้ามาซื้อขายพระที่ท่าพระจันทร์ โดยใช้ชื่อ เอก ท่าพระจันทร์ พูดถึงตรงนี้ผมต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านจริงๆ ที่ให้ความเมตตา ทำให้เราทำมาหากินได้ จวบจนทุกวันนี้”
พระเครื่องที่ เอก ท่าพระจันทร์ ถนัดคือหลวงปู่ทวด ยอดนิยม และเป็นกรรมการ หลวงปู่ทวดยอดนิยม ชุดที่ 1 มีหลักในการศึกษาพระเครื่องจากการครูพักลักจำจากผู้ใหญ่ หรือเข้าไปถามเซียนที่ชำนาญ และศึกษาด้วยตนเองโดยการตระเวณดูพระที่รอบนอกท่าพระจันทร์ ไปตลาดอื่นบ้าง เพื่อทดลองดูว่าที่เราเรียนมาเป็นยังไง พอเช้ามาก็เอามาขายที่ท่าพระจันทร์ ผิดบ้างถูกบ้าง เจอแท้บ้างเก๊บ้าง ลองผิดลองถูกเป็นครู “เราจะต้องออกไปเผชิญข้างนอก ไปซื้อผิดซื้อถูกลองผิดลองถูกเอง ซึ่งเราจะรู้ว่าซื้อผิดหรือไม่ก็ทุกเช้าที่เราไปเปิดร้านที่ท่าพระจันทร์นั่นล่ะ ว่าพระองค์ไหนขายไม่ได้ก็จะสะกิดใจสงสัยแล้วว่าน่าจะโดน แล้วก็เอาไปถามผู้ใหญ่ที่ท่าพระจันทร์นั่นล่ะก็รู้เลยว่าโดนแล้ว”
“ตอนนั้นมีพระอยู่องค์หนึ่งที่ผมซื้อทีไรโดนเก๊ตลอดเลย คือหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง พิมพ์นะหัวเข่า พิมพ์นี้พิมพ์เดียวที่ผมซื้อกี่ครั้งก็ไม่แท้สักที ผมก็ว่าที่ผมซื้อมาผมก็ดูว่าเก่ามากนะทำไมขายไม่ได้ จนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งชี้แนะว่าที่ผมซื้อมานี่มันเก่าเกินไปจริงๆ พระเค้าไม่ได้เก่าขนาดนี้ จึงเอะใจหาประวัติเพิ่มเติมแล้วก็ส่องๆ ดู คราวนี้ไม่เจอเก๊แล้ว เหมือนเส้นผมบังภูเขาบางทีเราก็มองเลยจุดเล็กๆ นี้ไป ทีนี้พอมีคนชี้ทางเราก็นำมาประยุคได้แล้ว ทำให้รู้ว่าการที่จะเล่นพระก็ต้องศึกษาประวัติพระด้วย นำหลายๆ อย่างมาประกอบกัน”
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากจะศึกษาพระเครื่อง เอก ท่าพระจันทร์ ว่า “ยุคปัจจุบันการศึกษาพระเครื่องง่ายกว่าอดีตเยอะ เข้าถึงง่ายทำให้เรียนรู้ได้เร็วกว่าอดีต เพราะมีหนังสือที่คอยชี้ตำหนิ และอินเตอร์เน็ต เราก็ใช้จุดนี้ล่ะศึกษาก่อนได้ แต่ประเด็นหลักผมอยากให้ เราใช้ตำราเพื่อศึกษาพิมพ์พระเป็นหลัก ไม่ต้องเน้นหัดดูเก๊-แท้ก่อน ไปแยกเนื้อพระ พิมพ์พระให้ได้ก่อน แล้ว พยายามจดจำลักษณะและจุดเด่นไว้ให้ดี อย่างผมสมัยก่อนกลับไปบ้านทุกวันจะคิดตลอดว่า วันนี้เราเห็นอะไรมา แม้กระทั่งตอนอาบน้ำในหัวผมก็คิดถึง ว่าวันนี้เห็นอะไรบ้าง บล็อกนั้นเรียกว่าอะไร พระองค์นี้มีกี่พิมพ์ พยายามทบทวนอยู่เสมอ พอจำตรงนี้ได้แยกเก๊-แท้มันก็จะมาเอง ผมอยากให้เน้นจดจำเพราะอะไรรู้ไหมครับ ถ้าเราไม่จำมันก็ไม่เกิดความรู้ พอไม่เกิดความรู้ก็ไม่เกิดรายได้ นี่คือหลักการเรียนรู้ของผม ที่จะนึกถึงเรื่องนี้ตลอด”
ส่วนสิ่งที่ เอก ท่าพระจันทร์ ยึดถือมาโดยตลอด จนได้รับความไว้วางใจจากคุณพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ให้ขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดตรัง คือ “หนึ่งต้องซื่อสัตย์ สองต้องรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ต้องให้ความเคารพรุ่นพี่ ให้ความเคารพผู้ใหญ่ ผมถือมากเรื่องบุญคุณ คนไหนที่มีบุญคุณ คนไหนที่เคยให้คุณ แล้วสำคัญที่สุดคือเรื่องการอ่อนน้อมถ่อมตน ผู้ใหญ่เราต้องให้ความเคารพ รุ่นน้องเราก็ต้องให้เกียรติเท่านี้ก็อยู่ในวงการได้นาน ครับ”
ปัจจุบันมีศูนย์พระเครื่องที่พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วานชั้น 2 ถ้าใครสนใจพระหลวงพ่อทวด สายใต้ จ.ตรัง ก็โทรนัดกันล่วงหน้าได้ที่ 081-902-6973
ท้ายนี้ผมขอฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้าวงการพระ อยากซื้อขายพระว่า “ประเด็นหลักๆ ใจต้องรัก ต้องเชื่อในพุทธคุณ เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง และอยากฝากเพิ่มว่าต้องเชื่อในการกระทำเพราะคำพูดนี่พูดยังไงก็ได้ แต่การกระทำมันจะบ่งบอกถึงตัวตนของบุคคลคนนั้น เช่น ถ้าเราจะซื้อพระกับใครสักคนคุณต้องดูพฤติกรรมของคน ว่าเค้าเป็นอย่างที่พูดไหมแล้วค่อยไปเช่าพระ เข้าไปคลุกคลีกับเขา ซื้อแล้วก็อย่าลืมถามเค้าด้วยว่า พี่ดูยังไง ดูจุดไหน ให้เค้าบอกเค้าสอน คุณจะได้เป็น จะได้รู้ คิดจะซื้อพระองค์หนึ่งจะต้องมีความรู้กลับไปด้วย แล้วก็กลับไปส่องดู พยายามถามให้เยอะ อย่าแสดงความอวดรู้มันจะไม่ได้ความรู้ ถ้าเกิดอ่อนน้อมถ่อมตนไม่แสดงความอวดรู้ผมว่าน้องๆ รุ่นใหม่ที่จะเข้ามาสู่วงการพระจะมีความก้าวหน้า แล้วอยู่ในวงการพระได้แน่นอน เพราะวงการพระ ทุกคนพร้อมต้อนรับและให้โอกาสพร้อมส่งเสริมกับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้ามาเสมอ”
Recommended To You
