4 มิ.ย 62 หลวงพี่สงบ จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน ละสังขารครบ 5 ปี
โดย…จ่าโกวิท แย้มวงษ์
พระครูปิยนนทคุณ หรือ หลวงปู่แย้ม ปิยวณฺโณ อดีต เจ้าอาวาสวัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี สมัยที่ท่านยังไม่ละสังขาร ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนนทบุรี มีนามเดิมของท่านชื่อว่า แย้ม นามสกุล ปราณี เป็นชาวสมุทรสาคร เกิดที่ ต.เจ็ดริ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทร สาคร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 พออายุครบ 20 ปี ท่านอุปสมบทที่วัดหลักสองบำรุงราษฎร์ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยมีพระครูคณาสุนทรนุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการเหลือ เจ้าคณะตำบล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ชื่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายานาม ปิยวณฺโณ
เมื่ออุปสมบทแล้วท่านอยู่จำพรรษาที่วัดหลักสองบำรุงราษฎร์ ท่านตั้งใจศึกษาธรรมะอย่างเอาจริงเอาจัง สามารถสอบได้นักธรรมตรีในพรรษาแรก พอย่างเข้าพรรษาที่ 2 ท่านเกิดอาพาธป่วยหนัก จนโยมพ่อต้องมารับกลับไปรักษาตัวที่บ้านเกิด ได้หมอพื้นบ้านเป็นคนต้มยาสมุนไพรไทยรักษาจนหาย หลวงปู่แย้มท่านพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านเกิดเกือบเดือน จึงกลับไปจำพรรษาที่วัดได้ตามเดิม
วัดหลักสองบำรุงราษฎร์สมัยนั้นพระภิกษุสงฆ์จะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องช่างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่างปูน ช่างไม้ ช่างทาสี พระภิกษุสงฆ์เหล่านี้ จะเป็นที่โปรดปรานของเจ้าอาวาสมาก
สมัยที่หลวงปู่แย้มยังเป็นพระหนุ่มท่าน เป็นช่างพิมพ์กระเบื้องในโรงงานของวัด วันหนึ่งต้องพิมพ์ให้ได้ถึง 500 แผ่นขึ้นไป เพื่อให้ทันเวลาที่จะนำไปมุงหลังคาถาวรวัตถุหลังใหม่ของวัด จนอาจกล่าวได้ว่ากระเบื้องทุกแผ่นที่วัดหลักสองบำรุงราษฎร์ ที่นำมาใช้มุงหลังคาสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หรือกุฏิสงฆ์ทุกหลังในวัด ล้วนเป็นฝีมือของหลวงปู่แย้มทั้งสิ้น นอกจากงานด้านช่างแล้วหลวงปู่ท่านยังได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ เพื่อสงเคราะห์ชาวบ้านแถบนั้นด้วย โดยลงมือศึกษาค้นคว้าในเรื่องยาสมุนไพร พร้อมทั้งคาถาอาคมที่จะใช้เสกกำกับลงไปในตัวยาเพื่อใช้สำหรับการรักษา จนกระทั่งมีความมั่นใจในตัวยาสมุนไพรเหล่านั้น ที่ท่านได้ค้นคว้าด้วยตัวเองและได้ศึกษาจากตำราโบราณ
หลังจากที่ท่านได้ศึกษาวิชาสมุนไพรจนแตกฉานแล้ว ท่านได้หันมาศึกษาด้านเวทมนต์คาถาวิทยาคมเพื่อให้มีวิชาเข้มขลัง กระทั่งท่านได้ดั้นด้นไปพบกับ “หลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้อง” สุดยอดพระคณาจารย์ดังในยุคนั้น ขอความเมตตาให้ท่านช่วยสอน พร้อมทั้งขอคำแนะนำและขอความรู้ต่างๆ จากท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอักขระเลขยันต์และเรื่องพระคาถาอาคมจนสำเร็จ วิชาต่างๆ จากหลวงพ่อสาย
หลังจากที่หลวงปู่แย้มอุปสมบทได้ 10 พรรษา โยมลุงได้นิมนต์มาอยู่จำพรรษาที่วัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในเวลาไม่นาน เจ้าอาวาสวัดตะเคียนมรณภาพ เจ้าคณะอำเภอให้ท่านทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในเวลาต่อมา เมื่อหลวงปู่แย้มรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตะเคียนแล้ว ท่านก็เริ่มพลิกฟื้นสภาพของวัดตะเคียนจากวัดร้างให้กลับกลายเป็นวัดที่สวยงาม จากวันนั้นถึงวันนี้รวมเวลาเกือบ 70 ปี ที่หลวงปู่แย้มอยู่เป็นเสาหลักของวัดตะเคียน ท่ามกลางความเลื่อมใสศรัทธา ความเชื่อมั่นของชาวบางกรวย เมืองนนทบุรี ชาวบ้านค้างเคียงและ ปริมณฑล ผู้คนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมากราบนมัสการหลวงปู่แย้ม มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วน
อนิจจังวัตสังขารา สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เมื่ออายุสังขารของหลวงปู่มากขึ้น สุขภาพของหลวงปู่แย้มไม่แข็งแรงเป็นเรื่องของธรรมชาติ มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธอยู่นานพอสมควร คณะศิษย์ผู้ใกล้ชิดนำโดย ท่านพระครูสมุห์ สงบ กิตติญาโณ บุตรบุญธรรมของหลวงปู่ได้อุปสมบทเข้ามาดูแลปรนนิบัติหลววงปู่ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่พยาบาลและอุปัฏฐากคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และวันที่ทุกคนไม่อยากคิดก็มาถึง จนกระทั่งช่วงเช้าวันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557 หลวงปู่แย้มหมดสติลง คณะแพทย์โรงพยาบาลวิชัยยุทธพร้อมเจ้าหน้าที่พยาบาล ได้ช่วยกันปั๊มหัวใจช่วยยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ไม่อาจยื้อชีวิตหลวงปู่แย้ม เอาไว้ได้จนลมหายใจของหลวงปู่ได้ขาดหายไปในที่สุด หลวงปู่ละสังขารอายุ 98 ปี พรรษาที่ 78
ส่วนเครื่องรางของขลังที่หลวงปู่แย้มที่โด่งดังมีผู้เช่าบูชาเสาะแสวงหากัน อยู่อย่างต่อเนื่องนั่นก็คือ ตะกรุดคอหมาและ เสือปืนแตก มีชาวบ้านใกล้เคียงวัดตะเคียนเล่าให้ฟังว่า หมาในวัดที่หลวงปู่ท่านเลี้ยงไว้ไปทำความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน จึงถูกชาวบ้านไล่ทำร้ายด้วยการใช้ปืนไล่ยิง ใช้ฉมวกไล่แทง ใช้มีดไล่ฟัน ใช้ก้อนหินไล่ขว้างปา ทำให้หมาของหลวงปู่ได้รับอันตรายเป็นแผลกลับมาให้หลวงปู่เห็นเป็นประจำทุกวัน ครั้นหลวงปู่จะไปห้ามชาวบ้านไม่ให้ทำร้ายหมาก็คงไม่ได้ หลวงปู่แย้มจัดทำตะกรุดขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ด้วยการจารตะกรุดใต้น้ำ เมื่อทำเสร็จแล้วจึงนำไปผูกคอหมาที่ท่านเลี้ยงไว้จนครบทุกตัวปรากฏว่าหลังจากนั้นมา หมาทุกตัวในวัดตะเคียนล้วนแคล้วคลาดปลอดภัยไม่มีอันตรายกลับมา หลังจากนั้นตะกรุดที่ห้อยอยู่ในคอหมาก็เป็นที่ต้องการของชาวบ้าน เป็นที่รู้จักกับคำว่า “ตะกรุดคอหมา” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ในวันที่ 4 มิ.ย. 62 ที่จะถึงนี้ ขอเรียนเชิญลูกศิษย์วัดตะเคียน ไปร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกันที่ วัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-595-1851, 088-672-5196