สีเผือก กาฬสินธุ์ เซียนพระรุ่นใหญ่ใจนิ่ง ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์
เซียนพระรุ่นใหญ่ใจนิ่งชำนาญพระบูชาสมัยต่างๆ หลวงปู่ทวด หลวงพ่อโสธร หลวงปู่เผือก และพระสายอีสาน คนหัวตะเข้ลาดกระบัง ชีวิตหันเหไปเป็นเซียนที่กาฬสินธุ์ จวบจนปัจจุบันเป็นทั้งประธานกรรมการบริหารสมาคมฯ สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์…เขาคนนั้น คือ…
สว่าง รุ่งกรุด หรือ สีเผือกกาฬสินธุ์
ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์
สีเผือก กาฬสินธุ์ เล่าย้อนอดีตให้ฟังจุดเริ่มต้นว่า ผมเป็นคนหัวตะเข้ลาดกระบัง ก่อนเข้าวงการพระเครื่องผมทำงานโรงงานอยู่ที่นิคมลาดกระบัง เวลาว่างก็ขับวินมอเตอร์ไซค์ เรียกว่าทำทุกอย่าง ช่วงนั้นยังไม่ได้สนใจในเรื่องของพระเครื่องเลย แต่จากที่บ้านมีพระเครื่องอยู่เยอะมาก เพราะคุณทวดผมเป็นหมอรักษาคนสมัยโบราณ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และเป็นลูกศิษย์พระเกจิดังๆ อีกหลายท่าน ที่บ้านก็เลยมีพระเครื่องยุคเก่าๆ เยอะมาก แต่ตอนนั้นยังไม่ได้รู้เรื่องวงการพระเครื่อง มีวันหนึ่งผมไปทำงานก็ได้ยินคนในโรงงานพูดถึงพระเครื่อง นึกขึ้นได้ว่าที่บ้านน่าจะมีก็เลยลองไปค้นดู ปรากฏว่ามีพระเก่าอยู่เยอะมาก ตอนนั้นด้วยความที่ไม่รู้และก็เห็นว่าเพื่อนอยากได้ก็เลยจำแนกแจกจ่ายให้เพื่อนสะส่วนใหญ่ตอนหลังถึงได้รู้ว่าพระมีราคาก็เริ่มสนใจ แต่เนื่องจากยายเป็นคนหัวโบราณ บอกว่าถ้าจะไปซื้อขายพระกลัวว่าจะไม่เจริญ เราก็เลยหยุดเพราะว่าผู้ใหญ่พูดไว้อย่างนี้
จนมีครั้งหนึ่งผมไปเดินเที่ยวที่ท่าพระจันทร์ ปรากฏว่าเห็นเซียนพระท่าพระจันทร์แต่งตัวดีมาก ใส่ทอง ใส่เลท ใส่สร้อยเส้นเบ้อเริ่มเลย ก็คิดว่าเอ๊ะ…ทำไมยายถึงบอกว่าคนเล่นพระไม่เจริญ.. ก็เลยรู้สึกค้านกันทางความคิด หลังจากนั้นก็พยายามไปดูตามแผงพระต่างๆ ก็ได้พูดได้คุยกันจึงได้รู้ว่าที่จริงแล้วนักนิยมสะสมพระเครื่องนี้มันก็มีแนวทาง บวกกับตอนนั้นก็รู้จักกับ พี่โย่ง แกมีตู้อยู่ที่ตลาดหัวตะเข้ ลาดกระบังซึ่งเป็นคนที่รู้จักคนในวงการเยอะ แกก็เลยพาให้ไปรู้จักกับเซียนพระในยุคนั้นไม่ว่าจะเป็น คุณโต คลองตัน คุณประทุม บ้านสร้าง แล้วก็ คุณอุกฤต เทวารุท แม้แต่กระทั่งคุณตี๋เหล้า ท่าพระจันทร์ ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงอยู่ในวงการ ผมก็เคยไปที่บ้านท่านมาแล้ว ตอนนั้นผมเคยหาพระ ได้พระแล้วก็เอาไปส่งให้ท่าน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ศึกษาพระเครื่องมาตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากนั้นผมก็ศึกษามาเรื่อยๆ ผมถือว่าผมโชคดีมากที่มีวัตถุดิบคือพระเครื่องเยอะที่บ้านอยู่แล้ว ทำให้ศึกษาพระได้ง่าย
ส่วนสายพระเครื่องที่ตัวเองถนัดเนื่องจากได้ความรู้มาจากเซียนพระสายพระบูชา ก็เลยจะถนัดพระบูชาค่อนข้างจะมาอันดับแรก อันดับรองลงมาก็จะเป็นหลวงพ่อโสธร ปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว ตอนหลังมาได้รู้จักกับ เชน มีนบุรี ก็สอนให้ดูหลวงปู่ทวด ก็ได้วิชาหลวงปู่ทวดมาอีก ส่วนหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคก็ถือว่าเป็นอีกสายหนึ่งที่ถนัด ในชั่วโมงนั้นที่บ้านมีเป็นสิบๆองค์ มีเกือบทุกพิมพ์ก็เลยได้ส่องได้ดูได้ศึกษาจึงทำให้เป็นพระเครื่องสายที่ถนัดด้วย
หลักในการดูพระเครื่องของสีเผือก กาฬสินธุ์ กล่าวว่า… ใช้หลักการที่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนใช้คือ พิมพ์ถูก เนื้อใช่ ความเก่าถูก ก็จะเป็นพระแท้ แต่ถ้าเราได้เริ่มเล่นพระบูชาก่อนเราจะได้เปรียบการเล่นพระเล็ก ตรงที่พระบูชาตามที่เรารู้กันว่า พระบูชาเวลาทำเก๊แล้วจะไม่เหมือนมันจะมีข้อแตกต่างเยอะ พระบูชาเป็นพระที่มีศิลปะสามารถบ่งบอกได้ถึงพุทธศิลป์ในยุคสมัยได้ เราก็สามารถเอามาใช้ในการพิจารณาพระเครื่องได้ เมื่อเราได้ทราบความเก่าของพระบูชาได้เรียนรู้พุทธศิลป์ อย่างเช่นบางคนเล่นพระเครื่องที่เป็นพระเล็ก แต่ไม่เป็นพระบูชาจะเสียเปรียบได้ว่าเขาไม่สามารถรู้จักพุทธศิลป์ว่า เป็นพระเชียงแสน อู่ทอง สุโขทัย อยุธยา กำแพงเพชร ลพบุรี เป็นแบบไหน แต่ถ้าเราเล่นพระบูชามาก่อนเราก็จะได้เปรียบตรงนี้ ก็จะทำให้เราพิจารณาได้ง่ายขึ้น
ส่วนการเข้ามาอยู่ในวงการพระเครื่องเต็มตัว สีเผือก กาฬสินธุ์ เล่าให้ฟังว่า เริ่มต้นเป็นคนหัวตะเข้ ลาดกระบังแต่เนื่องจากได้ภรรยาเป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงแรกๆ ที่เลิกทำงานโรงงานแล้ว มาเปิดศูนย์พระแล้วก็ยังเล่นอยู่แถวหัวตะเข้ ลาดกระบัง และ ในเขตปริมณฑลอยู่ ตอนหลังมาเนื่องจากพ่อตามีกิจการ โรงงานก็เลยมาช่วยพ่อตาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงทำให้มาเดินสายเล่นพระอยู่แถบอีสานอยู่ประมาณ 10 กว่าปี ในเวลาเดียวกันก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. และหลังจากนั้นก็ได้รับเลือกเป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ส่วนใหญ่ก็จะทำงานให้กับชุมชน พอมีเวลาว่างก็จะออกเล่นพระทางสายอีสาน ซึ่งพอมาอยู่สายอีสานเราจะได้เปรียบคนอื่นตรงที่ว่าพระส่วนกลางเราจะมีความรู้มากกว่า เราก็เลยมองดูว่าทางอีสานตลาดก็ดี สมัยนั้นก็จะซื้อพระส่วนกลางจากทางภาคอีสานไปขายทางกรุงเทพ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะซื้อพระของทางภาคอีสานจากกรุงเทพฯ ไปขายที่ภาคอีสาน เดินไปมาอยู่ในวงการอีสานอยู่ประมาณ 10 กว่าปี คุณเชษฐ์ ร้อยเอ็ด และอีกหลายท่าน มองเห็นว่าเป็นคนที่มีความสามารถ ทราบว่าผมสามารถพิจารณาความเก๊แท้ของพระได้ ก็เลยชักชวนเข้ามาในวงการพระของภาคอีสานเต็มตัว สมัยก่อนในภาคอีสานเริ่มต้นทีแรกจริงๆเขาจะมีประธานภาค คือคุณสุชัย แล้วตอนหลังมาก็ยกเลิกระบบประธานภาค มาเป็นระบบประธานเขต ซึ่งในสมัยนั้นก็จะมี 5 เขต ส่วนผมอยู่ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็เลยถูกเชิญเข้ามาเป็นรองประธานเขต ซึ่งกำกับดูแลจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากนั้นก็ยกเลิกมาเป็นระบบประธานเขต จึงได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธาน แล้วก็ได้รับความไว้วางใจจาก ท่านนายกสมาคมฯ คุณพยัพ คำพันธุ์ แต่งตั้งเป็นประธานจังหวัดฯ จังหวัดกาฬสินธุ์ต่อเนื่องมาเลย
สีเผือก กาฬสินธุ์ อยู่ในวงการมา 30 ปี มีหลักในการนิยมสะสมพระหรือเรียกว่าซื้อขายพระที่ใช้มาโดยตลอด คือ การเล่นพระอาจจะมีผิดบ้างถูกบ้าง ไม่มีใครหรอกที่จะเล่นแล้วมีแต่แท้ล้วนๆ หรือว่าเก๊ล้วนๆ มันก็จะมีบ้าง ต้องมีเคยเจอบ้าง แต่มันก็มีแนวทางคือ 1.การที่เราจะอยู่ในวงการ ได้นาน คือหากว่าเรามีความผิดพลาดเราก็รับผิดชอบไป ตามหน้าเสื่อในพระนั้นๆ ลูกค้าเราก็จะได้มีความมั่นอกมั่นใจ ประเด็นที่ 2.ในเพื่อนฝูงวงการพระเครื่อง หลักการขายพระหรือหลักการเล่นพระของผมก็คือเราแบ่งให้เพื่อนฝูง เราไม่ได้คำนึงว่าเราจะมีกำไรเท่าไหร่ แต่เราคำนึงว่าเพื่อนฝูงจะไปได้ต่อไหม พอเราคิดแบบนี้เราก็จะมีเพื่อนฝูงเข้ามาขอแบ่งของจากเรา ก็จะทำให้อยู่ร่วมกันได้ในสังคมพระเครื่อง ส่วนหน้าที่ประธานจังหวัดตอนนี้ ในเขตภาคอีสานก็จะพยายามรวบรวมทีมงานของจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง รวมไปถึงภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด อยากให้มีความรักความสามัคคีกัน ไปไหนก็เดินไปด้วยกันได้ เวลามีงานมีการเราก็ช่วยเหลือกันได้ ก็พยายามทำกันอยู่เวลาเกิดข้อพิพาท ตรงไหนก็ตามถ้าแก้ไขได้หรือไกล่เกลี่ยได้ จะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาหรือไกล่เกลี่ยให้โดยตลอด
สำหรับคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่คิดจะก้าวเข้ามาสู่วงการพระเครื่อง สำหรับผมแล้วถือว่าก็อายุมากแล้วปีนี้ก็จะ 50 ปีแล้ว จากประสบการณ์ที่ผ่านมาถ้าถามว่ามีข้อแนะนำอะไรสำหรับคนหนุ่มรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาในวงการ แค่ก้าวแรกที่คุณคิดจะเข้ามาสำหรับผมแล้วมาเป็นส่วนหนึ่งของวงการพระเครื่องผมมีความดีใจมาก ที่เราจะมีบุคลากรใหม่ๆ เกิดขึ้น สิ่งหนึ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ โลกปัจจุบันนี้เปลี่ยนไปสมัยผมเล่นนั้นต้องพึ่งพาหนังสือ แต่สมัยนี้โลกโซเชียลเข้ามาค่อนข้างมาก เด็กหนุ่มรุ่นใหม่จะได้เปรียบตรงที่คุณสามารถรู้พระโดยการที่คุณถาม Google ก็รู้แต่ไม่ว่าจะเป็นโลกโซเชียลใดก็แล้วแต่มันยังไม่ใช่ข้อยุติ อยากจะแนะนำว่าควรจะหาประสบการณ์จากคนที่เขาคร่ำหวอดในวงการ ศึกษาจากผู้ที่เขามีประสบการณ์มานานแล้วก็เทียบเคียงกับโลกโซเชียลที่เรามีความรู้ แล้วเราค่อยเอามาชั่งน้ำหนักว่ามันถูกต้องไหม อันไหนถูกต้องอันไหนไม่ถูกต้อง เพราะว่าทุกวันนี้แม้แต่โลกโซเชียลเองก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด หรือแม้แต่องค์ความรู้เดิมที่ผู้เฒ่าผู้แก่เขาเล่นอยู่ก็อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดเช่นกัน คนหนุ่มรุ่นใหม่ถือว่าได้เปรียบที่คุณมีองค์ความรู้อยู่ทั้งสองอย่างก็สามารถเอามาเปรียบเทียบเคียงได้ การเซอร์พระก็ดี การส่งประกวดพระเเต่ละงานก็ดีก็สามารถเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งทำให้คุณได้สามารถรู้ว่าข้อมูลทางโลกโซเชียลนั้นถูกต้องไหม หรือว่าข้อมูลทางครูบาอาจารย์นั้นถูกต้องหรือไม่ ถ้าหากรู้ว่าอันไหนถูกต้องคุณก็จดจำไว้เป็นบรรทัดฐาน อันไหนยังไม่ถูกต้องคุณก็ปรับจูนให้มันถูกต้อง ตามเส้นทางนั้นผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในเรื่องพระเครื่อง ผมเชื่อว่าอนาคตหากเดินให้ถูกทางเราสามารถที่จะพึ่งพาคนรุ่นใหม่ จรรโลงวงการพระเครื่องเราให้ยืดยาวไปได้อีกนาน
ปัจจุบันนี้ สีเผือก กาฬสินธุ์ ยังคงรับราชการเป็นประธานองค์การบริหารส่วนตำบล พร้อมทั้งพ่วงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์ ถ้ามีใครสนใจอยากพูดคุยกันก็จะติดต่อกันมาทาง Facebook , LINE หรือไม่ก็ไปหาที่บ้าน ที่บ้านคำใหญ่ อำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ สามารถโทรติดต่อได้ล่วงหน้าที่เบอร์ 090-932-9225
นี่คือเซียนพระรุ่นเก่า…เก๋าประสบการณ์… ที่อยากให้คนรุ่นใหม่ได้ดูเป็นแนวทางในการเข้าสู่วงการพระ การเดินเข้าวงการนั้นไม่ง่ายต้องศึกษา สะสมประสบการณ์ และการจะอยู่ได้ยาวนานนั้น คุณต้องสร้างความมั่นใจ เชื่อใจให้กับผู้เช่า พร้อมทั้งสร้างมิตรภาพ รักและสามัคคีกับเพื่อนพ้องพี่น้องในวงการ ดังเช่น สีเผือก กาฬสินธุ์ ประธานกรรมการบริหารสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย สาขาจังหวัดกาฬสินธุ์
สัมภาษณ์ by… จุ๋ม ศิริพร