เกร็ดชีวิตคนดัง

แฟร้ง มนัตย์ ลุนพิลา นักสร้างหน้าใหม่ ทุ่มสุดตัวหลายล้าน เพื่อเผยแพร่บารมีหลวงปู่ทา นาควัณโณ ขาดทุนไม่ว่า ขอแค่โบสถ์เสร็จตามที่ได้รับปากไว้!

%e0%b9%81%e0%b8%9f%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%87-%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%a2%e0%b9%8c-%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a5%e0%b8%b2-%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81

“จริงๆ ผมเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว เคยไปมาหลายวัดทั้งวัดที่เจริญแล้ว วัดดังๆ แล้วก็เป็นนักสะสมพระเครื่องครับ ซึ่งแรกๆ ก็สะสมพระใหม่ที่เป็นกระแส แล้วก็ดูจากวัตถุประสงค์ ถ้าวัตถุประสงค์ดี ทำเพื่อบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างวัด สร้างโบสถ์ ผมก็เก็บหมดไม่เลือกว่าจะเป็นวัดดัง หรือไม่ดัง เพราะจุดประสงค์หลักของเราคืออยากทำบุญ ไม่ได้คิดถึงการซื้อขายเป็นหลักครับ แต่สาเหตุที่ทำให้ผมหันมาสร้างพระเครื่องของหลวงปู่ทา และยอมทุ่มเงินเพื่อเผยแพร่บารมีหลวงปู่ ก็เพราะความศรัทธา”

          คือ…ก่อนที่ผมจะมาสนใจสะสมพระ หรือคิดจะสร้างพระ ผมทำธุรกิจส่วนตัวมีร้านพิซซ่า ที่เปิดเป็นเฟรนไชน์  อยู่ที่สุรินทร์ แล้วก็บุรีรัมย์ ประมาณ 22 สาขา ในปี 63 ผมมีโอกาสเข้าไปกราบหลวงปู่ทา นาควัณโณ ผมเห็นหลวงปู่ท่านมีเมตตา เป็นพระที่สมถะ แล้วก็ไม่เลือกชนชั้นวรรณะ ใครมาท่านก็ต้อนรับ ไม่ว่าคนนั้นจะมียศ มีตำแหน่ง ขี่เบนซ์  ขี่มอไซด์ หรือแม้แต่เดินเข้ามากราบ หลวงปู่ก็เมตตาทุกๆ คนเท่าเทียมกันหมด แล้วก็…อันนี้ออกตัวก่อนนะครับว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล คือตั้งแต่ผมมากราบหลวงปู่ และบูชาวัตถุมงคลจากหลวงปู่ไป ผมขายดีมาก ลูกค้าก็เข้าร้านเยอะขึ้น ยอดขายดีกว่าปกติ มีกำไรค่อนข้างดี พอไปศึกษาประวัติหลวงปู่ผมก็รู้สึกศรัทธาท่าน เพราะว่าหลวงปู่ทานี่ ท่านเป็นศิษย์ของญาท่านตู๋ ธัมมสาโร วัดสุขาวาส ที่อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี  ซึ่งญาท่านตู๋ท่านก็คือศิษย์สายตรงที่ร่ำเรียนวิชาต่างๆ มาจากสำเร็จลุนครับ แล้วญาท่านตู๋นี่ผมเคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่เขาเล่ากันว่าท่านสามารถเดินลุยฝนไม่เปียก ย่นระยะทางได้ แล้วก็เดินข้ามแม่น้ำโขงได้ครับ ท่านก็นำมาถ่ายทอดให้หลวงปู่ทา นาควัณโณ โดยเฉพาะวิชาวิหคเทวดาอาชาสวรรค์ และวิชามณีกาบแก้วกาเหว่าวอน ซึ่งเป็นวิชาที่โดดเด่นทางด้านเมตตาค้าขาย โชคลาภครับ

                นี่คือจุดเริ่มต้นที่ แฟร้งค์ มนัตย์ ลุนพิลาเล่าให้ฟัง ถึงสาเหตุที่หันมาสนใจสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทา จนเป้นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งนอกจากความศรัทธาแล้ว แฟร้ง มนัตย์ ลุนพิลา ยังบอกอีกว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สร้างวัตถุมงคลก็คือ

          “วัดนี้เป็นวัดบ้านนอกยังขาดผู้ใจบุญที่จะเข้ามาช่วยกันพัฒนา ทำนุบำรุงบูรณะสิ่งต่างๆ ภายในวัดครับ ผมเลยอยากช่วยวัด ซึ่งแรกๆ ผมจองวัตถุมงคลที่มีคนสร้างให้หลวงปู่เยอะครับ ทั้งหลักหมื่นบ้าง หลักแสนบ้างเพราะผมศรัทธาหลวงปู่ แล้วก็อยากให้วัดท่านเจริญๆ มีคนเข้าไปเยอะๆ อย่างล่าสุดผมไปที่วัด มีเหรียญตกค้างจากที่มีคนสร้างไว้อยู่ที่วัดตีเป็นเงินหลายแสนเลย ผมก็บูชามาหมด ถวายเงินให้หลวงปู่เสร็จผมก็แจกเลยครับ แจกคนที่มาวัดไม่ได้เอามาปล่อยเช้าหรืออะไร ถวายคืนให้หลวงปู่แจกคนที่มาไหว้ท่าน เจตนาที่ทำแบบนี้เพราะอยากให้คนเข้าไปหาหลวงปู่ อยากให้คนได้รู้จักหลวงปู่ นอกจากนี้พระแจกจากมือหลวงปู่ คนก็อยากจะเข้าไปหาหลวงปู่ เงินก็เข้าวัด ไม่เพียงเท่านั้นพระที่แจกจากมือหลวงปู่กลับกลายเป็นมีราคาขึ้นมาด้วยครับ

           “วันหนึ่งผมเข้าไปหาหลวงปู่อีกครั้ง หลวงปู่ท่านรู้ว่าผมเป็นคนซื้อพระหลวงปู่เยอะ ทั้งจองพระ ทั้งทำบุญต่างๆ  กรรมการวัด และชาวบ้านก็รู้ เลยขอให้ผมสร้างพระให้ ผมเองมองว่าปกติเวลาจองพระของหลวงปู่จากหลายๆ รุ่น รวมกันก็หลักล้าน ก็คิดว่าถ้าจะจองเยอะขนาดนั้นสร้างเองเลยดีกว่าจะได้ถวายเงินให้หลวงปู่ได้เต็มที่ จึงตัดสินใจตกปากรับคำสร้างให้หลวงปู่ทาครับ จะได้สร้างโบสถ์ให้เสร็จไวๆ ครับ”

          “ตอนแรกที่คิดจะจัดสร้างผมไปปรึกษาผู้ใหญ่หลายๆ คน แล้วก็สมาคมฯ บุรีรัมย์ ว่าผมจะสร้างเหรียญสักรุ่น จะเอารุ่นไหนดี พอดีว่าชอบเจ้าสัวของหลวงปู่เหลือง ก็เลยคิดว่าถ้าจะสร้างรุ่นแรกก็เอาชื่อเจ้าสัวน่าจะดี เพราะชื่อเป็นมงคล ใครๆ ก็อยากจะเป็นเจ้าสัวกัน พอตกลงว่าจะเอาชื่อรุ่นเจ้าสัว ก็ไปหาหลวงปู่เพื่อแจ้งชื่อรุ่น และขออนุญาตจัดสร้างอย่างเป็นทางการ เพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง ชัดเจน ซึ่งวันนั้นทางวัด ทางผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งชาวบ้านก็เห็นด้วยที่จะใช้ชื่อรุ่นนี้ครับ และยินดีจะให้การสนับสนุนช่วยกันจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้เพื่อถวายหลวงปู่ทา นำเงินสร้างโบสถ์ เพราเขาเห็นมาตลอดว่าผมเข้ามาเพื่อช่วยวัด และถวายเงินส่วนตัวให้หลวงปู่อยู่บ่อยๆ ก็เห็นดีเห็นงามด้วย”

          “ส่วนรูปแบบเหรียญคืออยากให้เป็นสากลที่สุด เพื่อคนบูชาไปจะได้เลี่ยมขึ้นคอหรือหากรอบง่ายๆ ก็เลยเอาเป็นรูปไข่เพราะมาตรฐานที่สุดครับ ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ผมตั้งใจจะเผยแพร่บารมีหลวงปู่อย่างเต็มที่ ผมยอมทุ่มเอาเงินส่วนตัวมาจัดพิธีปลุกเสกอย่างเต็มสูตร เต็มรูปแบบ ทั้งพิธีพราหมณ์บวงสรวง พิธีเสก แล้วก็พิธีทำบุญ แจกทุนนักเรียน รวมไปถึงจ้างวงดนตรีของเฉลิมพล มาลาคม มาเล่นให้ชาวบ้านแถบนั้นได้ชมกันด้วยหลังจากเสร็จพิธี ไม่เพียงเท่านั้นนะครับ ผมยังจ้างนักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังของทางแกรมมี่โกลด์แต่งเพลงให้หลวงปู่ทาด้วย ชื่อเพลง กราบหลวงปู่ทา นาควัณโน ครับ งานนี้ผมทุ่มสุดตัวหมดหน้าตักเพื่อหลวงปู่จริงๆ ครับ ส่วนเรื่องกำไลหรือขาดทุนนั้น ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า…ผมไม่คิด! ผมคิดแค่จะทำยังไงให้คนรู้จักหลวงปู่ทา นาควัณโณ ให้มากที่สุดเท่านั้นครับ! โบสถ์จะได้เสร็จไวๆ”

            เรียกได้ว่างานนี้ มนัตย์ ลุนพิลา หรือแฟล้ง ทุ่มสุดแรงเกิดเพื่อเผยแพร่บารมีของหลวงปู่ทา นาควัณโณ ให้เป็นที่รู้จัก รวมทั้งเพื่อจัดหารายได้เข้าวัดอย่างเต็มที่ เต็มเม็ด เต็มหน่วย ไม่หมกเม็ด โดยรุ่น “เจ้าสัว” นี้ก็ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2565 จวบจนบัดนี้มีผู้ให้ความสนใจพอสมควร ซึ่งคุณแฟร้งค์บอกว่าปัจจุบันได้สร้างกลุ่มเพื่อลงข่าวสาร งานบุญ บอกเรื่องราวของหลวงปู่ โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า กลุ่มอนุรักษ์วัตถุมงคลหลวงปู่ทา นาควัณโณ วัดศรีสว่างนาราม จ.อุบลราชธานี จึงอยากเชิญชวนทุกท่านหากสนใจ สามารถกดเข้าร่วมกลุ่มได้ทางเฟสบุ๊ค หรือหากอยากจะพูดคุยกับแฟร้งค์ มนัตย์ ลุนพิลา นักสร้างมือใหม่ ใจซื่อ ทำเพื่อหลวงปู่ สามารถติดต่อได้ที่ 099 421 0043

0 Comments

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*

WordPress Image Lightbox