พระเครื่องอภินิหาร : เหรียญสมเด็จพระนเรศวร หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ ช่วยให้รอดตายจากระเบิดที่หน้าศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์
“เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่๑๗สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘ เวลา๑๘.๕๕น. ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญต่อคนไทยทั้งชาติ เมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สี่แยกราชประสงค์ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร” โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ “มีคนรอดตายด้วยพระบารมีของพระองค์ท่านสมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่เสกโดยเหล่าพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณ”
“คุณธนชิต จิระเมธาวี” อยู่บ้านเลขที่๕๔หมู่๕ ตำบลและอำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี แกทำงานอยู่ในซอยมหาดเล็ก๓ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร กรุณาเล่าให้ฟังว่า…ตัวแกเป็นคน “ดอนเจดีย์” แกจึงมีความเคารพเทิดทูนต่อพระองค์ท่าน “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เป็นอย่างมาก
ทั้งยังนับถือศรัทธา “หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์” เป็นอย่างยิ่ง แกจึงแขวน “เหรียญสมเด็จพระนเรศวร ออกวัดป่าเลไลยก์ปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์หลายท่านนั่นรวมถึงหลวงพ่อถิร เจ้าอาวาสวัดด้วย” โดยแก “เลี่ยมกรอบเงิน” อย่างดีแล้วแขวนเดี่ยวติดตัวทุกวัน
อนึ่ง สำหรับพิธีเสกเหรียญและพระกริ่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนี้ มีขึ้นเมื่อวันที่๒๕มกราคม พ.ศ.๒๕๑๓ ณ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จัดโดย “หลวงพ่อถิร” เพื่อนำเงินมาปฏิสังขรณ์ “วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร” โดยมีพระอาจารย์ผู้ทรงคุณเข้าร่วมปลุกเสก ดังนี้ ๑,หลวงพ่อถิร ๒,หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ๓,หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง ๔,หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ ๕,หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ๖,หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา ๗,หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ๘,หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ๙,หลวงพ่อคำ วัดหนองพุทธางกูร ๑๐,หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย ๑๑,หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว ๑๒,หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง ๑๓,หลวงพ่อดี วัดพระรูป ๑๔,หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ๑๕,หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ฯลฯ
จะขอกลับมาที่เรื่องของ“คุณธนชิต”อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่๑๗สิงหาคม เวลาประมาณ๑๓.๐๐น. แกมีอาการหงุดหงิดเกิดอยากจะดู“เหรียญสมเด็จพระนเรศวร”ขึ้นมา แกจึงล้วงเหรียญดังกล่าวจากในเสื้อแล้วเอาออกมาดู ก็ปรากฏว่า“กรอบเงินที่เลี่ยมไว้ เกิดเป็นคราบสีดำแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”(เงินเป็นคราบดำ แบบคนใส่เหงื่อเค็ม หรือเป็นคนใส่เงินไม่ขึ้นแนวๆนี้) พอแกเห็นแบบนั้นแกก็รีบถอดออกมาขัดทันที
“คุณธนชิตขัดตั้งหลายรอบเพราะพอขัดจนเป็นเงาสีเงินเสร็จ สักพักใหญ่ๆก็กลับมาเป็นคราบสีดำอีก เป็นแบบนี้อยู่๒-๓ครั้ง ตอนนั้นแกนึกสังหรณ์ใจว่าน่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องอะไร”
ตกตอนเย็นหลังเลิกงาน คุณธนชิตได้ไปไหว้ “องค์ท้าวมหาพรหมเอราวัณที่สี่แยกราชประสงค์ พอแกไหว้เสร็จแกก็เดินออกมา คุณธนชิตเดินยังไม่ทันจะถึง๒๐ก้าว ก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว” แกว่า “เสียงระเบิดดังมาก ดังจนหูแทบแตก และตอนที่เกิดเสียงระเบิดได้มีลมแรงๆกรรโชกใส่(เหมือนตอนจุดประทัดดอกใหญ่แล้วมีลมผ่านตัว นี่เรียกว่าแรงอัดอากาศ) และในเวลาเดียวกันนั้นได้มีอะไรบางอย่างลอยละลิ่วมากระแทกคุณธนชิตอย่างแรงจนทำให้ล้มลง”(อะไรบางอย่างที่ว่าคือเศษฟุตบาทที่แตกกระจายตรงจุดระเบิด ที่มีขนาดเท่าๆกับหนึ่งฝ่ามือ)…
เมื่อ “คุณธนชิต” ดึงสติกลับคืนมาได้ สิ่งที่เห็นคือ “ความวายปวง แกเห็นผู้คนพากันแตกตื่น ตื่นตระหนกตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ พวกผู้ชายวิ่งหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก บางคนตั้งสติได้ไวก็รีบโทรศัพท์แจ้งเหตุ บ้างก็วิ่งไปดูและเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนพวกผู้หญิงบางคนก็ส่งเสียงกรีดร้องกันดังระงม อีกหลายคนพากันร้องไห้ด้วยความโศกสลดกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า”
สำหรับคุณธนชิตก็เหมือนกับอีกหลายๆคน(หลายคนที่ว่าอยู่ห่างจุด ระเบิดมากกว่าคุณธนชิต)ที่เริ่มสำรวจร่างกายตนเอง(ตอนนั้นคุณธนชิตถึงกับขาสั่นพับๆ) ก็สรุปได้ว่า
“ในรัศมีที่โดนสะเก็ดระเบิดแล้วตาย มีคุณธนชิตกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีก๒คนเท่านั้นที่รอดมาได้ แต่คุณธนชิตโชคดีกว่าอีก๒คน เพราะว่าแกไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น”
(๒คนได้รับบาดเจ็บต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนสะเก็ดฟุตบาทที่กระเด็นโดนคุณธนชิตก็ไม่ทำให้เกิดบาดแผลหรือเกิดรอยช้ำใดๆ)
หากจะกล่าวว่า “คุณธนชิตรอดตายมาได้ก็ด้วยพระบารมีขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็กล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เพราะตอนกลางวันพระองค์ท่านได้มาเตือนโดยทำให้กรอบพระดำทั้งทีไม่เคยเป็นมาก่อน และในตอนเกิดเหตุแกก็รอดตายมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ” เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล…
และการระเบิดในครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก รถยนต์และรถจักยานยนต์หลายคันที่จอดติดไฟแดงอยู่และที่วิ่งผ่านในบริเวณนั้นได้รับความเสียหาย ส่วนอาคารที่เป็นผนังกระจกใกล้หน่อยก็แตกไม่มีเหลือ หากอยู่ไกลออกไปก็มีแตกร้าว สำหรับโรงแรมไฮแอทเอราวัณ แรงระเบิดทำให้กระจกแตกตั้งแต่ชั้น๑ไล่ขึ้นไปจนถึงชั้น๓ กันเลยทีเดียว
อนึ่ง ผู้เขียนขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้ที่ล่วงลับในเหตุการณ์ครั้งนั้นทุกท่าน ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป และผู้เขียนขอให้ผลบุญจากการเผยแพร่พระบารมีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ จงนำพาทุกท่านที่ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดีครับ.